ฉันถักทอทุกอย่างกลางสายลม
ภาพใต้โลกใบกลมที่สับสน
ฉันกระซิบเบาเบา เข้าถึงใจของใครอีกคน
แม้ยามที่ฟ้าหมองหม่น และ มืดมนสำหรับใคร
ฉันสามารถจ้องตากับความเหงา
เมื่อยามที่มันรุมเร้าเข้ามาใกล้
ฉันสามารถรู้สึกโดยที่ไม่รู้สึกอะไร
ฉันสามารถใช้ทั้งหมดของหัวใจ ระบายอะไรต่ออะไรออกมา
ฉั น จึ ง รั ก ที่ ถั ก ร้ อ ย
แม้ถูกเรียกว่าด่างพร้อยในวงศา
แต่ฉันจะถัก ถักร้อยสร้อยอักษรา
แม้เป็นได้เพียงเสียงนกกา. . .แต่สายลมที่ห่มฟ้าคงรับฟัง
. . . . .ดึกแล้วนะคืนนี้. . . .
ฉันนั่งฟังเสียงกล่องดนตรีก่อนหลับไหล
บนห้วงของความรู้สึกที่ฉันไม่อยากนึกคิดอะไร
นอกจากฟังเสียงเพลงแทนใจ. .ใต้ความอ่อนไหวของพระจันทร์
. . . . .หลับหรือยังนะป่านนี้. . . . .
ฉันฝากดวงดาวในราตรีไปกล่อมฝัน
สายลมที่ห่มฟ้าฝากพัดพาความผูกพัน
ฝากส่งข้อความของฉันให้ฟ้าฝั่งนั้น. . .หลับฝันดี
ยินเสียงสำเนียงลม
เจ้าห้อมห่ม ณ หนไหน
ยามพรากเจ้าจากไกล
เจ็บเพียงใดหนอสายลม
คิดถึงบ้างหรือเปล่า
หลากเรื่องราวเจ้าขื่นขม
มีไหมที่ใจตรม
บอกทีลมอยากรู้ความ
การจากมันยากไหม
ช้ำเพียงใดข้าใคร่ถาม
ใช้ช่วงกี่ห้วงยาม
ใจจึงดามได้หายดี
ภาพเก่าเก่าเล่าเรื่องราวของความหลัง
เสียงความหวังยังกังวาลไม่ผ่านผัน
คนคนเดิมยังมองฟ้ามองพระจันทร์
ยังคงแต่งแต้มรำพัน. . .ถึงบนนั้น "บนดวงดาว"
สายลมยังพัดย้ำเหมือนซ้ำซาก
คนบางคนบนฟ้าฟากยังเหน็บหนาว
ความคิดถึงอีกครึ่งฝั่งยังแพรวพราว
ต่างเพียงบางครั้งคราว. . .ยังปวดร้าวในหัวใจ
สายหมอกยังหยอกเย้า
กลุ่มเมฆยังคลุกเคล้า. . .ดุจร้าวไหว
ตั้งแต่วันนั้น. . .วันที่เธอลาไกล
ฉันยังเก็บทั้งหัวใจไว้รอเธอ. . .
ได้ยินไหม เสียงของพระจันทร์
ที่ข้ามฟ้ารำพันในวันเหงา
เสียงกระซิบจากหัวใจที่แผ่วเบา
ที่กล่อมฟ้าเทาเทาในราตรี
ได้ยินหรือเปล่าเสียงกล่อมจากฉัน
ที่ส่งมาพร้อมแสงจันทร์ในคืนนี้
อาจขาดขาดหายหายท่ามหมู่ดาวพร่างพรายที่มากมี
แต่รับรองนะคนดี. . .ทุกข้อความที่มี. .จะถึงที่นี่เพียงที่เดียว
เธอจะรักฉันหรือเปล่า
ถ้าฉันเป็นแค่เงาที่เธอใฝ่ฝัน
คนธรรมดาที่ชอบมองฟ้ามองจันทร์
ไม่ใช่คนคนนั้นในเทพนิยาย
เธอจะรักฉันอยู่หรืิอเปล่า
เมื่อฉันไม่ใช่เงาที่ห่างหาย
ไม่ใช่คนที่เธอตามหาด้วยเวลาตั้งมากมาย
แต่จะเป็นคนที่ใช้ลมหายใจสุดท้าย. . .ไปพร้อมเธอ
จะยังรักฉันอยูไหม
เมื่อฉันเป็นแค่ใครที่พร่ำเพ้อ
คนคนนึง. . .ที่แอบลึกซึ้งจนหวานละเมอ
หากโลกความจริงมันพร่าเบลอ. .จะยังรักฉันหรือเปล่าเธอ. . .อยากรู้จัง
นั่งเงียบเงียบข้างหน้าต่างบานเก่า
อยู่ข้างข้างความเหงากลางสายฝน
เสียงกระซิบจากฟากฟ้าแว่วเข้ามาในกมล
เหมือนเสียงของใครบางคน. . .ที่ทำสัญญาร่วงหล่นอยู่บนหัวใจ
สัญญาที่เคยบอกกล่าว
ที่ฉันยังเก็บเรื่องราวทุกอย่างเอาไว้
ขวดโหลใบเก่าที่ใส่ข้อความสีเทาก่อนเธอจากไป
สัญญาที่ไม่มีค่าอะไร. . .สัญญาจากหึวใจวันฝนพรำ
เพราะเธอก้าวเข้ามา
ปรับปรุงโครงสร้างแววตาที่เหงาเพ้อ
ตั้งศูนย์ถ่วงหัวใจ ที่เคยเอนไหวละเมอ
กรุทับด้วยวัสดุที่ไม่เคยเจอ คืออุ่นไอ
ฉั น จึ ง รั ก เ ธ อ
สถาปนิกผู้ทำคนเพ้อ หายหวั่นไหว
วันนี้จะขอรับเหมาเฝ้าหัวใจ
อนุมัติดำเนินการได้ไหม แล้วจะทำโอทีให้ยี่สิบสี่ชั่วโมง
ดาวตกข้างหน้าฉันตอนนี้
อยากให้ตกใส่บ้านเธอคนดีนะรู้ไหม
อยากให้ตกที่นั่นรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร
เพราะเธอจะได้ตกใจแล้ววิ่งออกมา
ฉันจะได้มีเพื่อนนั่งดูดาว
อากาศหนาวยิีงทำให้ไหวล้า
หากมีเธออยู่ข้างข้าง ฉันคงไม่อ้างว้างในช่วงเวลา
รอคอยดาวตกจากฟากฟ้า ตกลงมาที่หัวใจ
คิดอีกทีไม่อยากให้ตกที่นี่นแล้วหล่ะ
ที่ไม่อยากน่ะเพราะอะไรเธอรู้ไหม
ก็ถ้าดาวตกถูกหัวเธอจะทำไง
ฉันก็คงจะเศร้าใจไปอีกนาน
นับถอยหลังเพื่อรอเวลา
เมื่อไหร่คนบนฟ้า จะเกิดมาเพื่อคู่กับฉัน
ยังคงเหงาเมื่อมองฟ้าผืนเก่าใต้เงาพระจันทร์
ใช้ชีวิตไปวันวัน อยู่แบบนั้นตลอดมา
นับถอยหลังเพื่อรอบางคน
ที่จะร่วมเดินบนทางมืดมนและไหวล้า
อิจฉาคืนวันที่ได้ควงแขนไปกับกาลเวลา
อิจฉากระทั่งเข็มนาฬิกาที่เดินไม่กี่เสี้ยวเวลาก็เจอกัน
นับถอยหลังเพื่อรอแค่ใคร
ที่จะจับมือไว้. . .ไม่ใช่แค่ในความฝัน
คนที่จะมอบทุกสิ่ง คนที่เป็นยิ่งกว่าความสำคัญ
จะมีไหมใครคนนั้น จะมีไหมพระจันทร์. . .บอกฉันที
เก็บหัวใจใส่กุญแจ
ไม่เปิดให้ใครตอแย มานานช้า
วันนี้มีใครบางคนผ่านเข้ามา
เคาะประตูหัวใจชาชา. . .เพื่อเปิดมัน
แต่กุญแจได้หล่นหาย
ตั้งแต่ที่รักมันตายเมื่อคราวนั้น
ไม่อยากรับรู้โมงยาม ไม่อยากก้าวข้าวคืนและวัน
จนเธอไขประตูความผูกพัน และเปิดบานนั้นด้วยหัวใจ
เธอเป็นมากกว่าความรัก
ที่เปิดเข้ามาทายทักคนอ่อนไหว
ปลุกชีพความศรัทธา บอกฉันว่ารักเป็นเช่นไร
เธอคือกุญแจที่หายไปและเป็นรักครั้งใหม่ ที่ฉันจะฝากชีวิตไว้ ตลอดกาล
ลืมกันหรือยังก็ไม่รู้
แต่เธอยังอยู่ทุกอณูของความห่วงหา
ขวดโหลใบใหญ่ ที่เธอฝากไว้ก่อนวันลา
เข็มของเส้นนาฬิกาที่จะอยู่ที่ข้างฝาตลอดไป
หากแต่มันคงจะเดินต่อ
เมื่อคนที่ฉันเฝ้ารอกลับมาเติมถ่านให้
ปฎิทินตัวเลขที่ฉันเบรคมันด้วยหัวใจ
ไม่รู้จะเดินต่อเมื่อไหร่ ไม่รู้อีกนานไหมเธอจะมา
เสียงลมหายใจของความคิดถึง
ดังจากอีกซีกหนึ่งของขอบฟ้า
ได้ยินใช่ไหม เสียงของหัวใจที่ข้ามมา
เสียงที่ตอกย้ำการจากลา แต่ก็ย้ำว่ายังมีเธอ
เสียงลมหายใจของหนึ่งความรัก
ที่ดังอย่างแน่นหนัก เมื่อคราวพร่ำเพ้อ
ได้ยินหรือเปล่าเสียงเบาเบา ยามเหงาไม่พบเจอ
หรือเป็นเพียงลมละเมอ ที่พัดถึงเธอแต่ไม่รู้เลย
เก็บนิยามทุกความรู้สึก
เก็บไว้ในใจลึกลึก อยู่แบบนี้
จะให้ผ่านกี่เนิ่นนานตาปี
เธอจะยังอยู่ที่นี่ อยู่ในความรู้สึกดีๆตลอดไป
ฉันไม่จำเป็นต้องมีเธออยู่
แค่หลับตาแล้วรับรู้ ว่าเธออยู่ใกล้ใกล้
เธอไม่จำเป็นต้องแสนดีสำหรับใคร
แต่เธอจะเป็นเจ้าหญิงที่ยิ่งใหญ่ ในหัวใจคนธรรมดา
รับรู้ทุกความผูกพัน
ที่ได้มีเธอทุกวัน ทุกความห่วงหา
ฉันยังมีเธออยู่ใกล้ใกล้ ทุกความเคลื่อนไหวและแววตา
เราจะอยู่ในห้วงกาลเวลา ที่ไม่รู้จะเดินหน้าได้อย่างไร
นานมาแล้วที่เราจากกัน
แต่นานเท่าไหร่นั้น. . .ฉันจำไม่ไหว
รู้แค่เธอจะเป็นที่หนึ่ง เธอจะลึกซึ่งอยู่ในหัวใจ
จากวันนั้นนับอีกตลอดไป จะไม่มีใครแทนที่เธอ
กาลครึ่งหนึ่ง. . .นานมาแล้ว
มีหัวใจที่เบาแผ่วเคยสดใส
กาลครั้งหนึ่ง บนก้นบึ่งของหัวใจ
มีคนทิ้งทั้งชีวิตไว้ เพื่อจะเดินไป กับใครบางคน
กาลครั้งหนึ่ง. . .แห่งความรัก
มีหัวใจเคยแน่นหนัก มันสับสน
กาลครั้งหนึ่ง ที่ก้าวมาถึงทางมืดมน
ทำให้หมดความอดทนบนหนทาง
กาลครั้งหนึ่ง แห่งความหมาย
ที่ลมหายใจสุดท้าย. . .ถูกทิ้งขว้าง
กาลครั้งหนึ่งที่ใจลึกซึ่งเริ่มเบาบาง
เหลือเพียงความรู้สึกจางจาง ก่อนจากลา
กาลครั้งหนึ่ง. . .ที่มาถึงครั้งสุดท้าย
ที่ความรักท้าทาย ทุกความห่วงหา
กาลครั้งหนึ่งที่ความลึกซึ่งพ่ายแพ้กาลเวลา
จึงเหลือเพียงคนทรมา. . .ที่จ่อมจมวังน้ำตาตลอดกาล
ภาพใต้โลกใบกลมที่สับสน
ฉันกระซิบเบาเบา เข้าถึงใจของใครอีกคน
แม้ยามที่ฟ้าหมองหม่น และ มืดมนสำหรับใคร
ฉันสามารถจ้องตากับความเหงา
เมื่อยามที่มันรุมเร้าเข้ามาใกล้
ฉันสามารถรู้สึกโดยที่ไม่รู้สึกอะไร
ฉันสามารถใช้ทั้งหมดของหัวใจ ระบายอะไรต่ออะไรออกมา
ฉั น จึ ง รั ก ที่ ถั ก ร้ อ ย
แม้ถูกเรียกว่าด่างพร้อยในวงศา
แต่ฉันจะถัก ถักร้อยสร้อยอักษรา
แม้เป็นได้เพียงเสียงนกกา. . .แต่สายลมที่ห่มฟ้าคงรับฟัง
. . . . .ดึกแล้วนะคืนนี้. . . .
ฉันนั่งฟังเสียงกล่องดนตรีก่อนหลับไหล
บนห้วงของความรู้สึกที่ฉันไม่อยากนึกคิดอะไร
นอกจากฟังเสียงเพลงแทนใจ. .ใต้ความอ่อนไหวของพระจันทร์
. . . . .หลับหรือยังนะป่านนี้. . . . .
ฉันฝากดวงดาวในราตรีไปกล่อมฝัน
สายลมที่ห่มฟ้าฝากพัดพาความผูกพัน
ฝากส่งข้อความของฉันให้ฟ้าฝั่งนั้น. . .หลับฝันดี
ยินเสียงสำเนียงลม
เจ้าห้อมห่ม ณ หนไหน
ยามพรากเจ้าจากไกล
เจ็บเพียงใดหนอสายลม
คิดถึงบ้างหรือเปล่า
หลากเรื่องราวเจ้าขื่นขม
มีไหมที่ใจตรม
บอกทีลมอยากรู้ความ
การจากมันยากไหม
ช้ำเพียงใดข้าใคร่ถาม
ใช้ช่วงกี่ห้วงยาม
ใจจึงดามได้หายดี
ภาพเก่าเก่าเล่าเรื่องราวของความหลัง
เสียงความหวังยังกังวาลไม่ผ่านผัน
คนคนเดิมยังมองฟ้ามองพระจันทร์
ยังคงแต่งแต้มรำพัน. . .ถึงบนนั้น "บนดวงดาว"
สายลมยังพัดย้ำเหมือนซ้ำซาก
คนบางคนบนฟ้าฟากยังเหน็บหนาว
ความคิดถึงอีกครึ่งฝั่งยังแพรวพราว
ต่างเพียงบางครั้งคราว. . .ยังปวดร้าวในหัวใจ
สายหมอกยังหยอกเย้า
กลุ่มเมฆยังคลุกเคล้า. . .ดุจร้าวไหว
ตั้งแต่วันนั้น. . .วันที่เธอลาไกล
ฉันยังเก็บทั้งหัวใจไว้รอเธอ. . .
ได้ยินไหม เสียงของพระจันทร์
ที่ข้ามฟ้ารำพันในวันเหงา
เสียงกระซิบจากหัวใจที่แผ่วเบา
ที่กล่อมฟ้าเทาเทาในราตรี
ได้ยินหรือเปล่าเสียงกล่อมจากฉัน
ที่ส่งมาพร้อมแสงจันทร์ในคืนนี้
อาจขาดขาดหายหายท่ามหมู่ดาวพร่างพรายที่มากมี
แต่รับรองนะคนดี. . .ทุกข้อความที่มี. .จะถึงที่นี่เพียงที่เดียว
เธอจะรักฉันหรือเปล่า
ถ้าฉันเป็นแค่เงาที่เธอใฝ่ฝัน
คนธรรมดาที่ชอบมองฟ้ามองจันทร์
ไม่ใช่คนคนนั้นในเทพนิยาย
เธอจะรักฉันอยู่หรืิอเปล่า
เมื่อฉันไม่ใช่เงาที่ห่างหาย
ไม่ใช่คนที่เธอตามหาด้วยเวลาตั้งมากมาย
แต่จะเป็นคนที่ใช้ลมหายใจสุดท้าย. . .ไปพร้อมเธอ
จะยังรักฉันอยูไหม
เมื่อฉันเป็นแค่ใครที่พร่ำเพ้อ
คนคนนึง. . .ที่แอบลึกซึ้งจนหวานละเมอ
หากโลกความจริงมันพร่าเบลอ. .จะยังรักฉันหรือเปล่าเธอ. . .อยากรู้จัง
นั่งเงียบเงียบข้างหน้าต่างบานเก่า
อยู่ข้างข้างความเหงากลางสายฝน
เสียงกระซิบจากฟากฟ้าแว่วเข้ามาในกมล
เหมือนเสียงของใครบางคน. . .ที่ทำสัญญาร่วงหล่นอยู่บนหัวใจ
สัญญาที่เคยบอกกล่าว
ที่ฉันยังเก็บเรื่องราวทุกอย่างเอาไว้
ขวดโหลใบเก่าที่ใส่ข้อความสีเทาก่อนเธอจากไป
สัญญาที่ไม่มีค่าอะไร. . .สัญญาจากหึวใจวันฝนพรำ
เพราะเธอก้าวเข้ามา
ปรับปรุงโครงสร้างแววตาที่เหงาเพ้อ
ตั้งศูนย์ถ่วงหัวใจ ที่เคยเอนไหวละเมอ
กรุทับด้วยวัสดุที่ไม่เคยเจอ คืออุ่นไอ
ฉั น จึ ง รั ก เ ธ อ
สถาปนิกผู้ทำคนเพ้อ หายหวั่นไหว
วันนี้จะขอรับเหมาเฝ้าหัวใจ
อนุมัติดำเนินการได้ไหม แล้วจะทำโอทีให้ยี่สิบสี่ชั่วโมง
ดาวตกข้างหน้าฉันตอนนี้
อยากให้ตกใส่บ้านเธอคนดีนะรู้ไหม
อยากให้ตกที่นั่นรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร
เพราะเธอจะได้ตกใจแล้ววิ่งออกมา
ฉันจะได้มีเพื่อนนั่งดูดาว
อากาศหนาวยิีงทำให้ไหวล้า
หากมีเธออยู่ข้างข้าง ฉันคงไม่อ้างว้างในช่วงเวลา
รอคอยดาวตกจากฟากฟ้า ตกลงมาที่หัวใจ
คิดอีกทีไม่อยากให้ตกที่นี่นแล้วหล่ะ
ที่ไม่อยากน่ะเพราะอะไรเธอรู้ไหม
ก็ถ้าดาวตกถูกหัวเธอจะทำไง
ฉันก็คงจะเศร้าใจไปอีกนาน
นับถอยหลังเพื่อรอเวลา
เมื่อไหร่คนบนฟ้า จะเกิดมาเพื่อคู่กับฉัน
ยังคงเหงาเมื่อมองฟ้าผืนเก่าใต้เงาพระจันทร์
ใช้ชีวิตไปวันวัน อยู่แบบนั้นตลอดมา
นับถอยหลังเพื่อรอบางคน
ที่จะร่วมเดินบนทางมืดมนและไหวล้า
อิจฉาคืนวันที่ได้ควงแขนไปกับกาลเวลา
อิจฉากระทั่งเข็มนาฬิกาที่เดินไม่กี่เสี้ยวเวลาก็เจอกัน
นับถอยหลังเพื่อรอแค่ใคร
ที่จะจับมือไว้. . .ไม่ใช่แค่ในความฝัน
คนที่จะมอบทุกสิ่ง คนที่เป็นยิ่งกว่าความสำคัญ
จะมีไหมใครคนนั้น จะมีไหมพระจันทร์. . .บอกฉันที
เก็บหัวใจใส่กุญแจ
ไม่เปิดให้ใครตอแย มานานช้า
วันนี้มีใครบางคนผ่านเข้ามา
เคาะประตูหัวใจชาชา. . .เพื่อเปิดมัน
แต่กุญแจได้หล่นหาย
ตั้งแต่ที่รักมันตายเมื่อคราวนั้น
ไม่อยากรับรู้โมงยาม ไม่อยากก้าวข้าวคืนและวัน
จนเธอไขประตูความผูกพัน และเปิดบานนั้นด้วยหัวใจ
เธอเป็นมากกว่าความรัก
ที่เปิดเข้ามาทายทักคนอ่อนไหว
ปลุกชีพความศรัทธา บอกฉันว่ารักเป็นเช่นไร
เธอคือกุญแจที่หายไปและเป็นรักครั้งใหม่ ที่ฉันจะฝากชีวิตไว้ ตลอดกาล
ลืมกันหรือยังก็ไม่รู้
แต่เธอยังอยู่ทุกอณูของความห่วงหา
ขวดโหลใบใหญ่ ที่เธอฝากไว้ก่อนวันลา
เข็มของเส้นนาฬิกาที่จะอยู่ที่ข้างฝาตลอดไป
หากแต่มันคงจะเดินต่อ
เมื่อคนที่ฉันเฝ้ารอกลับมาเติมถ่านให้
ปฎิทินตัวเลขที่ฉันเบรคมันด้วยหัวใจ
ไม่รู้จะเดินต่อเมื่อไหร่ ไม่รู้อีกนานไหมเธอจะมา
เสียงลมหายใจของความคิดถึง
ดังจากอีกซีกหนึ่งของขอบฟ้า
ได้ยินใช่ไหม เสียงของหัวใจที่ข้ามมา
เสียงที่ตอกย้ำการจากลา แต่ก็ย้ำว่ายังมีเธอ
เสียงลมหายใจของหนึ่งความรัก
ที่ดังอย่างแน่นหนัก เมื่อคราวพร่ำเพ้อ
ได้ยินหรือเปล่าเสียงเบาเบา ยามเหงาไม่พบเจอ
หรือเป็นเพียงลมละเมอ ที่พัดถึงเธอแต่ไม่รู้เลย
เก็บนิยามทุกความรู้สึก
เก็บไว้ในใจลึกลึก อยู่แบบนี้
จะให้ผ่านกี่เนิ่นนานตาปี
เธอจะยังอยู่ที่นี่ อยู่ในความรู้สึกดีๆตลอดไป
ฉันไม่จำเป็นต้องมีเธออยู่
แค่หลับตาแล้วรับรู้ ว่าเธออยู่ใกล้ใกล้
เธอไม่จำเป็นต้องแสนดีสำหรับใคร
แต่เธอจะเป็นเจ้าหญิงที่ยิ่งใหญ่ ในหัวใจคนธรรมดา
รับรู้ทุกความผูกพัน
ที่ได้มีเธอทุกวัน ทุกความห่วงหา
ฉันยังมีเธออยู่ใกล้ใกล้ ทุกความเคลื่อนไหวและแววตา
เราจะอยู่ในห้วงกาลเวลา ที่ไม่รู้จะเดินหน้าได้อย่างไร
นานมาแล้วที่เราจากกัน
แต่นานเท่าไหร่นั้น. . .ฉันจำไม่ไหว
รู้แค่เธอจะเป็นที่หนึ่ง เธอจะลึกซึ่งอยู่ในหัวใจ
จากวันนั้นนับอีกตลอดไป จะไม่มีใครแทนที่เธอ
กาลครึ่งหนึ่ง. . .นานมาแล้ว
มีหัวใจที่เบาแผ่วเคยสดใส
กาลครั้งหนึ่ง บนก้นบึ่งของหัวใจ
มีคนทิ้งทั้งชีวิตไว้ เพื่อจะเดินไป กับใครบางคน
กาลครั้งหนึ่ง. . .แห่งความรัก
มีหัวใจเคยแน่นหนัก มันสับสน
กาลครั้งหนึ่ง ที่ก้าวมาถึงทางมืดมน
ทำให้หมดความอดทนบนหนทาง
กาลครั้งหนึ่ง แห่งความหมาย
ที่ลมหายใจสุดท้าย. . .ถูกทิ้งขว้าง
กาลครั้งหนึ่งที่ใจลึกซึ่งเริ่มเบาบาง
เหลือเพียงความรู้สึกจางจาง ก่อนจากลา
กาลครั้งหนึ่ง. . .ที่มาถึงครั้งสุดท้าย
ที่ความรักท้าทาย ทุกความห่วงหา
กาลครั้งหนึ่งที่ความลึกซึ่งพ่ายแพ้กาลเวลา
จึงเหลือเพียงคนทรมา. . .ที่จ่อมจมวังน้ำตาตลอดกาล