****”เถ้าธุลี”****
สำเนียงแผ่วแว่วหวานผสานถ้อย
เคยเรียงร้อยรำพัน ขับขานไข
สัญญารัก ฝากแอบ แนบทรวงใน
จากดวงใจ ใฝ่รัก พร้อมภักดี
กลับลาเลือน เลื่อนหาย ไม่คบหา
หมดเมตตา พารัก คิดผลักหนี
สิ้นเยื่อใย ไร้ถึง ซึ่งปรานี
ดวงฤดี ไฉนถึงได้ดำ
ปล่อยน้องตรม ซมเศร้า ร้าวใจหนัก
คิดถึงคำ เอ่ยรัก ภักดิ์งามขำ
แต่สุดท้าย ใจน้อง ต้องระกำ
ถูกเหยียบย่ำ ทำร้าย ให้อายคน
ทุกคืนวัน คำนึง ตราตรึงติต
พาชีวิต อ่อนแอ แพ้สับสน
มีแต่ตรม ซมเศร้า เฝ้าจำทน
ร้าวกมล หม่นหมอง เหมือนต้องทัณฑ์
เธอจะรู้ บ้างไหม ใครคนหนึ่ง
เฝ้ารำพึงพร่ำเพ้อละเมอฝัน
สุดประคอง ใจนี้ ที่จาบัลย์
ให้พ้นวัน รันทด เพื่อปลดตรวน....
ทรวงระทม ถมทับ รับแต่พ่าย
ดั่งเม็ดทราย ไร้ค่า พาไห้หวน
เหมือนแสงจันทร์ ข้างแรมไม่แจ่มนวล
โศกกำศรวล ครวญเศร้า ดั่ง...เถ้าธุลี...
“สุนันยา”
ร้อยกลอนกานท์ สาส์นคำ นำไพเราะ
ถ้อยเสนาะ เสน่ห์เลิศ ประเสริฐศรี
ช่างตรมโศก โลกเศร้า เหงาชีวี
โธ่คนดี โดดเดี่ยว เปลี่ยวหรือไร
เปรียบชีวิต จิตนี้ "ธุลี-เถ้า"
แสนอับเฉา ช่างโศก ถึงโลกไหน
ร้าวหมองหม่น หม่นหมอง คล้องดวงใจ
ดวงฤดี พี่ไซร้ เศร้าเสียงจริง
ลืมบ้างเรื่อง บางคราว ครั้งขื่นขม
อกระทม ทน-อด งดบางสิ่ง
แสวงหา ความสุข ปลุกแอบอิง
เป็นที่พัก ที่พิง มิ่งขวัญเอย
หทัยกาญจน์
๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕