รัตติกาล มาเยือน เดือนจับฟ้า
ผืนนภา พอสลัว ทั่วพรมหญ้า
ลงทอดกาย เอนนอน ผ่อนกายา
ปล่อยนัยตา ทอดยาว ราวฟ้าไกล
ผืนนภา พอสลัว ทั่วพรมหญ้า
ลงทอดกาย เอนนอน ผ่อนกายา
ปล่อยนัยตา ทอดยาว ราวฟ้าไกล
ลมระเรื่อย เฉื่อยฉิว พัดพลิ้วอ่อน
สายลมอ้อน กิ่งเอน บิดเบนไหว
ไม้ยังมี สายลม คอยห่มไกว
แต่ฉันใย ไร้คู่ อยู่ใกล้เคียง
สายลมอ้อน กิ่งเอน บิดเบนไหว
ไม้ยังมี สายลม คอยห่มไกว
แต่ฉันใย ไร้คู่ อยู่ใกล้เคียง
นกยังเพรียก เรียกกัน หันกลับถิ่น
ยังยลยิน ขานรับ สดับเสียง
แว่ววาจา ออดอ้อน วอนสำเนียง
แล้วบินเลี่ยง เคียงข้าง สู่รังนอน
ยังยลยิน ขานรับ สดับเสียง
แว่ววาจา ออดอ้อน วอนสำเนียง
แล้วบินเลี่ยง เคียงข้าง สู่รังนอน
ยกแขนสอด กอดตัว ใจรัวหวิว
ลมพัดฉิว ฉาบกาย ให้ทอดถอน
ลุกขึ้นยืน ฝืนดับ ขับอาวรณ์
ก่อนเดินจร ขอจันทร์ หลับฝันดี
ลมพัดฉิว ฉาบกาย ให้ทอดถอน
ลุกขึ้นยืน ฝืนดับ ขับอาวรณ์
ก่อนเดินจร ขอจันทร์ หลับฝันดี
แม้อดีตกรีดถ่างทางขนาน
ผ่าห้วงกาลสองฝั่งดั่งวิถี
ให้ฝังจมถมทับดับชีวี
ดวงฤดีมอดไหม้บรรลัยกัลป์
ผ่านมาแล้วก็ยังอยู่ยิ้มสู้ได้
อดีตลับกลับกลายหายดั่งฝัน
แม้จะอยู่ตัวคนเดียวไม่เกี่ยวกัน
แต่รอยถ่างที่กางกั้นยิ่งกว้างไกล
ในทรงจำย้ำเตือนมีเธออยู่
อยากใคร่รู้ภาพความหลังฝังนานไหม
มันคงติดย้ำเตือนเชือดเฉือนใจ
นับแต่นี้ตลอดไปจวบวันตาย
ฉันคงทำได้แค่นี้แหละที่รัก
ได้ตระหนักภักดีไม่มีหาย
มอบรักนี้ชั่วชีวีมิมีคลาย
ไม่แหนงหน่าย แม้จะต้อง อยู่ลำพัง
bluesky