แอบมอง
ดุจดั่งม่านสานปิดชิดฝั่งฟาก
บังเป็นฉากจากแนวแววสุขสันต์
ให้ลบเลือนเบือนหายคลายรำพัน
ลบวารวันผันแปรให้แลเลย
ปิดอารมณ์คมสวาทจนขาดหาย
ปิดใจกายหมายให้ไม่เปิดเผย
ปิดความหวังคลั่งไคล้เหมือนไม่เคย
ปิดรำเพยเอ่ยอ้างยามห่างกัน
สิ่งใดเล่า เขาปิด ความคิดถึง
จากฟากหนึ่ง ถึงอีกฟาก มากไหวหวั่น
สิ่งใดเล่า ปิดห่วงหา ครารำพัน
ให้สองนั้น ได้สิ้น ถวิลปอง
ฝั่งฟ้าห่างต่างแดนแม้นไกลสุด
ไม่อาจฉุดห่วงหาคราสนอง
ไม่อาจลบปรารถนาค่าควรครอง
ยังเฝ้ามองสองฟากจากหัวใจ
จะสมหวังผิดหวังยังห่วงหา
ตราบอุราปักมั่นด้วยฝันใฝ่
แม้เป็นรักเพียงข้างหรืออย่างไร
ก็สุขได้ในฝันนั้นรำพึง
เมื่อตัดบัวเหลือใยใครก็รู้
ไยหดหู่ด้วยหม่นบนคิดถึง
ขอเพียงรัก ในหวังตั้งรำพึง
เธอเป็นหนึ่ง ที่ฉัน..นั้นแอบมอง.
บังเป็นฉากจากแนวแววสุขสันต์
ให้ลบเลือนเบือนหายคลายรำพัน
ลบวารวันผันแปรให้แลเลย
ปิดอารมณ์คมสวาทจนขาดหาย
ปิดใจกายหมายให้ไม่เปิดเผย
ปิดความหวังคลั่งไคล้เหมือนไม่เคย
ปิดรำเพยเอ่ยอ้างยามห่างกัน
สิ่งใดเล่า เขาปิด ความคิดถึง
จากฟากหนึ่ง ถึงอีกฟาก มากไหวหวั่น
สิ่งใดเล่า ปิดห่วงหา ครารำพัน
ให้สองนั้น ได้สิ้น ถวิลปอง
ฝั่งฟ้าห่างต่างแดนแม้นไกลสุด
ไม่อาจฉุดห่วงหาคราสนอง
ไม่อาจลบปรารถนาค่าควรครอง
ยังเฝ้ามองสองฟากจากหัวใจ
จะสมหวังผิดหวังยังห่วงหา
ตราบอุราปักมั่นด้วยฝันใฝ่
แม้เป็นรักเพียงข้างหรืออย่างไร
ก็สุขได้ในฝันนั้นรำพึง
เมื่อตัดบัวเหลือใยใครก็รู้
ไยหดหู่ด้วยหม่นบนคิดถึง
ขอเพียงรัก ในหวังตั้งรำพึง
เธอเป็นหนึ่ง ที่ฉัน..นั้นแอบมอง.
"บ้านริมโขง"
๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕
สายใยไม่เคยขาดอนาถนัก
แอบซ่อนรัก ปักห้วง ทรวงหม่นหมอง
มิกล้าคิด ชิดใกล้ ดั่งใจปอง
แม้นอยากครอง เคียงขวัญ ทุกวันไป
เพียงรู้นัย สัมผัส มิอาจพราก
เพียงขอฝาก รักหวาน ผ่านลมไหว
เพียงเธอรับรู้ผล คนห่างไกล
เพียงเท่านี้ ซึ้งใน ฤทัยนวล
รักเก็บซ่อน วอนจัทร์ นั้นเป็นเพื่อน
รักคอยเยือน มิเลือนจาก ฝากลมหวน
รักรู้ได้ ใครหนึ่ง รำพึงครวญ
รักเย้ายวน อวลไอ ในสัมพันธ์
ซ่อนเอาไว้ มิให้ใครอื่นเห็น
ซ่อนลำเค็ญ เป็นคู่ อยู่ในฝัน
ซ่อนดวงใจ รักนี้ที่ให้กัน
ซ่อนจำนนรจ์ รู้เคียงเพียงสองเรา
เงาของความรู้สึก สำนึกบอก
เงารักออก จากใจไม่อับเฉา
เงาใจสอง ปองติด ชิดแนบเนา
เงาใจเฝ้าอ้อนออด พลอดรักพรม
แม้ทางไกล ใช่ห่าง สองฝั่งฝัน
ดุจตะวัน จันทรา มิพาสม
กาลเวลา พาเคลื่อน เหมือนระทม
แต่..ภิรมย์ ชมชื่นทั้ง-คืน-วัน
“สุนันยา”