อยากจะเป็น ดอกไม้ แต่ไม่กล้า
กลัวน้ำตา อาบแก้ม แต้มเสียหนัก
ด้วยเราเป็น ดอกหญ้า ระอานัก
ต้อยต่ำศักิด์ เพียงดิน ถวิลครวญ
รอน้ำค้าง หยาดหยด รดมาบ้าง
มองทีไร ไร้ทาง พลางให้หวน
แสงอุษา สาดส่อง หมองเรรวน
สุดกำสรวล เสียสิ้น ใจภินท์พัง
กว่าจะถึง วสันต์ นั้นคงเศร้า
ด้วยว่าเรา แห่งเหี่ยว เปลี่ยวหมดหวัง
ทั้งน้ำค้าง น้ำฝน หล่นประดัง
แต่ก็ยัง ไม่ถึง ซึ่งผกา
คงทนรอ ต่อไป ไม่ไหวแล้ว
ฤทัยแป้ว แห้วแน่ แค่ดอกหญ้า
คงไม่เทียบ เทียมเท่า เจ้างามตา
เป็นดอกฟ้า ภูมริน บินร่อนชม
พันทอง
ขอเป็นเพียงดอกไม้ส่งไปถึง
มีฝูงผึ้งบินมาแทนผ้าห่ม
แม้จะเป็นดอกหญ้าเริงร่าลม
ก็ภิรมย์ชมรสหยดน้ำค้าง
ที่พรมพรายแต้มต่อกอดอกหญ้า
มนต์รัมภาแต้มไว้ไม่เคยห่าง
ดั่งแต้มกลีบดอกไม้ให้นวลปราง
มิให้จางร้างรักไปจากใจ
แม้จะรอสายวสันต์ในวันพรุ่ง
ทอดสายรุ้งเรียวรีสีสวยใส
คือมนตราพาคนึงซึ้งทรวงใน
ที่ผลิออกดอกใบในครั้งนี้
ขณะหนึ่งผีเสื้อบินมาเกาะ
ก็จำเพาะดำรงอยู่คงที่
ด้วยนางฟ้ารัมภามาปราณี
ให้ฝันดีชื่นฉ่ำดั่งน้ำค้าง
รการตติ
ภูมริน บินร่อน มาตอนเช้า
เห็นว่าเรา ดอกหญ้า พาเมินหมาง
ไม่สนใจ ใยดี หลีกลี้ทาง
ปล่อยอ้างว้าง โดดเดี่ยว อยู่เดียวดาย
ด้วยเหตุว่า ต่ำต้อย แสนน้อยค่า
ไม่ต้องตา ต้องฤทัย ไร้ความหมาย
ไม่เย้ายวน ชวนชื่น ระรื่นกาย
เขาจึงหน่าย พ่ายแพ้ แก่ภมร
จึงขอจร จำลา หลีกหน้าหลบ
ไม่อยากพบ จบนัก รักถ่ายถอน
จากเพียงกาย ใจนั้น หวั่นอาวรณ์
ยามกินนอน พร่ำเพ้อ ระเมอครวญ
พันทอง