ขอบเขตของความคิดถึง...
หลักหมุดปักตรึง..ฤ เส้นเชือกขึงอยู่ตรงไหน...
ขอบเขตความรู้สึก..ของหัวใจ...
หลักหมุดช่างไกล..เหลือเกิน...
มองเส้นโค้งขอบฟ้า...
มองแนวทิวป่า..ใกล้ตาแต่ว่าห่างเหิน...
กุมมือกับเงา..แล้วพาหัวใจดวงเหงาก้าวเดิน...
ไขว่คว้าเผชิญ..คิดถึงเหลือเกิน..สิ้นสุดที่ใด...
ปภัสร์
๒๙ เมษายน ๒๕๕๕
หลักหมุดปักตรึง..ฤ เส้นเชือกขึงอยู่ตรงไหน...
ขอบเขตความรู้สึก..ของหัวใจ...
หลักหมุดช่างไกล..เหลือเกิน...
มองเส้นโค้งขอบฟ้า...
มองแนวทิวป่า..ใกล้ตาแต่ว่าห่างเหิน...
กุมมือกับเงา..แล้วพาหัวใจดวงเหงาก้าวเดิน...
ไขว่คว้าเผชิญ..คิดถึงเหลือเกิน..สิ้นสุดที่ใด...
ปภัสร์
๒๙ เมษายน ๒๕๕๕
หรืออาจ..ไม่มีที่สิ้นสุด
หรือไม่อาจหยุด..ความคิดถึงนี้ได้
หรือเส้นทางของความคิดถึงครั้งนี้ ..กว้างจนไม่รู้จะสิ้นสุด ณ จุดใด
หรือไม่อาจตีค่าของความคิดถึงได้..ขอบเขตที่รู้สึกเมื่อห่างไกล..จึง “มากกว่าเดิม”
เพราะขอบเขตของความคิดถึง..เท่ากับ..ไม่อาจหยุดคิดถึง
กลอนบทนี้จึง..ล้นคำคำนึง.ตั้งแต่เริ่ม
มีแต่คิดถึง คิดถึง และคิดถึง ..อักษราอื่นอื่น.แค่ส่วนเพิ่มเติม
เพื่อบอกและขยายความคิดถึงเพิ่ม ..ว่า “คิดถึงกว่าเดิม”..ในทุกวัน
เพราะไม่อาจหยุดคิดถึง...
จึงรำพันรำพึง..ถึงอีกฟากแห่งความฝัน...
คือนี่ใช่ไหม..ที่เรียกว่าสายใยผูกพัน...
ตัวไกลแค่ไหนนั้น..หัวใจก็ไม่พรากจากกันแม้สักวินาที...
และเพราะนี่คือความคิดถึง...
ใจจึงยังสุขซึ้ง..แม้จะเหงาอยู่แบบนี้...
และเพราะอกซ้าย..มีแต่ความรู้สึกดีๆ...
คิดถึง..คิดถึงที่มี..จึงหาดรรชนีชี้วัดขอบเขตไม่เจอ...
๓๐ เมษายน ๒๕๕๕
ปภัสร์
จึงรำพันรำพึง..ถึงอีกฟากแห่งความฝัน...
คือนี่ใช่ไหม..ที่เรียกว่าสายใยผูกพัน...
ตัวไกลแค่ไหนนั้น..หัวใจก็ไม่พรากจากกันแม้สักวินาที...
และเพราะนี่คือความคิดถึง...
ใจจึงยังสุขซึ้ง..แม้จะเหงาอยู่แบบนี้...
และเพราะอกซ้าย..มีแต่ความรู้สึกดีๆ...
คิดถึง..คิดถึงที่มี..จึงหาดรรชนีชี้วัดขอบเขตไม่เจอ...
๓๐ เมษายน ๒๕๕๕
ปภัสร์