“ถึงยามค่ำข้ามผ่านสะพานขึง”
ราตรีหนึ่ง อุ่นใน ฤทัยสม
ข้ามสะพาน ผ่านดาว พราวภิรมย์
ชวนชื่นชม ห่มหนาว ด้วยดาวใจ
“สุนันยา”
ราตรีหนึ่งกำจายฉายแสงส่อง
มวลละอองดาวนวลชวนฝันใฝ่
จรัสแสงแรงรื่นชื่นหทัย
ดูวับไหวเจิดจรัสรัตติกาล
ฤๅสะพานเชื่อมถึงรำพึงแผ่ว
เมื่อขึงแล้วใจจึงคนึงผ่าน
ก้าวไปอย่างช้าช้ามาเนิ่นนาน
ชมดาวกานท์คนธรรพ์ประพันธ์กลอน
จาตุมหาราชิกาขอบฟ้านั้น
คือสวรรค์สะพานขึงจึงย้อนศร
และหยุดยืนฟังคำอำนวยพร
ด้วยห่วงหาอาทร"ป้อนสุขพรม"
ซึ่งสายสรวงโยงใยไกลสุดตา
แม้เมฆหมอกดาษดามีฟ้าห่ม
แต่สายใยลดาพารื่นรมย์
ชวนชื่นชมสมถวิลด้วยยินดี
เมื่อขอบฟ้าคืนสงัดรัตติยา
ดาริกาสุกไสวได้เต็มที่
สะพานขึงจึงทดผ่านกานท์กวี
เชื่อมราตรีข้ามฟากจากนิทรา
ให้นอนหลับชุ่มชื่นทุกคืนค่ำ
กล่อมลำนำฝากไว้แทนใจว่า
"เมื่อสะพานขามขึงถึงเวลา
จะกลับมา ห่มหนาว ด้วยดาวใจ"
รการตติ