เร่งรถเครื่อง คันเก่า เขย่าเสียง
ลากลำเลียง มะม่วง พ่วงข้างขวา
หนักร้อยโล จากดง พงพนา
ส่งลูกค้า ชั้นดี ที่กาดแลง
ขับลัดเลาะ เหาะเหิน เลียบเนินเขา
รีบเบรคเบา ลงหลุม ขุมเกาะแก่ง
ขึ้นที่สูง ชันโหด รถสิ้นแรง
จอดแอ้งแม้ง ยางแตก แทกหินคม
น้ำเหงื่อไคล ไหลเค็ม เต็มใบหน้า
รีบเดินฝ่า ร้อนเร่า เข้าที่ร่ม
มันวาบหวิว ใจกาย คล้ายเป็นลม
ควักสูดดม หลอดยา ตราจั่นเจา
รอเนิ่นนาน คอยช่าง เปลี่ยนยางใหม่
ท่ามเปลวไฟ ไอแดด พลุ่งแผดเผา
เปลี่ยนเสร็จช่าง อีกคน บ่นเบาเบา
ความร้อนเท่า วานวา แทบบ้าตาย
กลับถึงบ้าน อาบน้ำ ชุ่มฉ่ำเนื้อ
ชะล้างเหงื่อ นาฬิกา เวลาบ่าย
ยกนิ้วกด ปุ่มคอมพ์ นั่งจ่อมกาย
ขอระบาย ร่วมอริญชย์ กลั่นกลิ่นกลอน
ข้างนอกบ้าน 42 องศาครับ
รพีกาญจน์ 59
12.40 น.
รถก็เก่า คนก็แก่ แย่จริงหนอ
มะละกอ พ่วงหลาย ท้ายกระฉ่อน
ร่วงตามทาง เกือบหมด รถตูดงอน
น้องบังอร ช่วยเก็บ จนเล็บพัง
บอกให้ซื้อรถใหม่ไยงกนัก
เงินก็มี เป็นกตั๊ก หัดใช้มั่ง
ใช้แต่รถ เก่าเก่า เศร้าเสียจัง
ต้องมานั่ง รอเพียง เสียงเครื่องยนต์
จะไปไหน แต่ละที นี้น่าเบื่อ
ทั้งใต้เหนือ ตกออก บอกสับสน
เครื่องดับบ้าง เข็นบ้าง อย่างทุกข์ทน
แม่น่ามน หมดสวย ซวยจริงจริง
พันทอง