นั่งมอง ท้องนที
ในวารี มีมัจฉา
หลากหลาย ว่ายไปมา
เพลินอุรา น่าภิรมย์
นั่น"เสือตอ" กับ"หมอไทย"
ปลา"ตาใส" และ"ไส้ขม"
"ปลาดุก" คลุกโคลนตม
นึกนิยม ชม"ปลาไน"
เห็น"กริม" แอบริมขอน
โน่น"เนื้ออ่อน" "ช่อน""ปลาไหล"
งามพริ้ง "กระทิงไฟ"
ส่วน"หางไหม้" ไล่กิน"ซิว"
"แรด""หลด" "กด""เทโพ"
ท่า"ชะโด" เหมือนโซหิว
"เข็ม"จ้อย ลอยแถวทิว
"บู่"ขี้ริ้ว ผิวน่าชัง
"นวลจันทร์" หันแคล่วคล่อง
"ตะเพียนทอง" ท่องตามหลัง
"ปลาสร้อย" คอยระวัง
เรียดชายฝั่ง ดั่งกังวล
"กระดี่" ที่ก่อหวอด
ฟองฟูฟอด กอดหญ้าขน
"ปลาหมู" ดูชอบกล
พล่านซุกซน ก้นพื้นทราย
"ปล้องอ้อย" ตัวน้อยนิด
กระจิริด ผิด"สวาย"
สง่า ต้อง"ปลากราย"
อีก"ตองลาย" คล้ายคลึงกัน
ยามยล ชลสถาน
สุขสำราญ ปานเคลิ้มฝัน
มัศยา นานาพันธุ์
ดลให้ฉัน พลันอิ่มใจ
สุนทรวิทย์
ในวารี มีมัจฉา
หลากหลาย ว่ายไปมา
เพลินอุรา น่าภิรมย์
นั่น"เสือตอ" กับ"หมอไทย"
ปลา"ตาใส" และ"ไส้ขม"
"ปลาดุก" คลุกโคลนตม
นึกนิยม ชม"ปลาไน"
เห็น"กริม" แอบริมขอน
โน่น"เนื้ออ่อน" "ช่อน""ปลาไหล"
งามพริ้ง "กระทิงไฟ"
ส่วน"หางไหม้" ไล่กิน"ซิว"
"แรด""หลด" "กด""เทโพ"
ท่า"ชะโด" เหมือนโซหิว
"เข็ม"จ้อย ลอยแถวทิว
"บู่"ขี้ริ้ว ผิวน่าชัง
"นวลจันทร์" หันแคล่วคล่อง
"ตะเพียนทอง" ท่องตามหลัง
"ปลาสร้อย" คอยระวัง
เรียดชายฝั่ง ดั่งกังวล
"กระดี่" ที่ก่อหวอด
ฟองฟูฟอด กอดหญ้าขน
"ปลาหมู" ดูชอบกล
พล่านซุกซน ก้นพื้นทราย
"ปล้องอ้อย" ตัวน้อยนิด
กระจิริด ผิด"สวาย"
สง่า ต้อง"ปลากราย"
อีก"ตองลาย" คล้ายคลึงกัน
ยามยล ชลสถาน
สุขสำราญ ปานเคลิ้มฝัน
มัศยา นานาพันธุ์
ดลให้ฉัน พลันอิ่มใจ
สุนทรวิทย์