สวัสดีคุณหนามเตยและคุณหมอณัชชา
ร่วมแจมกลอนด้วยครับ สำหรับผู้หลงรักวันอาทิตย์และระเบียงบ้าน งานเก่าปี 53 ครับ
เช้าวันอาทิตย์
๑.ระเบียงบ้านลานลมอันร่มรื่น
ช่างสดชื่นสะอาดอากาศเช้า
ตั้งกาน้ำสีหม่นลงบนเตา
ควันเขม่าลอยเลี้ยวเป็นเกลียวกรวย
นี่คือความรื่นรมย์อันกลมกล่อม
กาแฟหอมอ่อนอ่อนสักค่อนถ้วย
ไอกาน้ำย่ำรุ่งยังพุ่งพวย
โลกแสนสวยตื่นตาวันอาทิตย์
หลังคืนฝนตกหนักกระหน่ำฟ้า
สองดวงตาข้าพเจ้าหลับสนิท
พอลืมตาโลกดั่งนฤมิต
ช่อชีวิตไพรพุ่มก็ชุ่มชื้น
มารับเช้าแรกฉ่ำด้วยน้ำฝน
ใบไม้จนใบหญ้าลืมตาตื่น
แล้วโลกเขียวเข้มขลับก็กลับคืน
นำความรื่นรมย์สู่ฤดูกาล
ฝนยังขังคั่งค้างบนทางเท้า
บนดินเผากระเบื้องระเบียงบ้าน
ดอกไม้แรกแตกใบ..อีกไม่นาน
จะเบ่งบานนับหมื่นเต็มพื้นดิน
ตะวันยังเขยิบอย่างเนิบช้า
มานั่งม้าโยกฟังสังคีตศิลป์
มีใบไม้ปลิวเป็นศิลปิน
เสียงน้ำรินจากใบก็ไพเราะ
คือความสุขดื่มด่ำในสัมผัส
เพลงลมพัดพฤกษ์พุ่มนุ่มเสนาะ
แทรกสรรพเสียงสกุณาป่าละเมาะ
แทนเสียงเคาะ..ทุ่ม..ป๊ะ..ตีตะโพน
โน่นใบหยักกวักไกวเหมือนใครเรียก
หรือไพรเพรียกเพื่อนเก่าเสียงห้าวโหน
เสียงขันไก่ในสุ่มช่างทุ้มโทน
เป็นจังหวะจะโคนในช่วงเช้า
ราวบทเพลงพื้นบ้านได้ขานขับ
ไล่ลำดับอักษรจากกลอนเก่า
ฟังเถิดฟังเสียงแจ้วนั้นแผ่วเบา
ล้วนบอกเล่าความงามของความรัก….
๒.มาเถิดเธอสบตากับฟ้าเช้า
จะบอกเจ้าผู้กร้านจากงานหนัก
บอกว่าโลกแท้จริงงามยิ่งนัก
หากเธอจักสดับแหละรับรู้-
ถึงเสียงลมหายใจแห่งไพรพฤกษ์
ซึ่งรู้สึกด้วยใจมิใช่หู
ลองหลับตาให้ลึกแล้วตรึกดู
ฟังลมตรู่หยอกหญ้าชิงช้าไม้
ว่าเธอผู้อ่อนแรงแสวงหา
เรือเวลาเธอเร่ทะเลไหน
อีกฝั่งฟ้าฝ่าคลื่นอีกหมื่นไมล์
ขอเรือใบลำน้อยอย่าร่อยแรง
จะแดดจ้า ฝนพรู ฤดูหนาว
ตราบดวงดาว..สุรีย์ยังมีแสง
คลื่นกราดเกรี้ยวเคี้ยวเหยื่อ..เรือตะแคง
หมายจะแกว่งเรือคว่ำให้จำนน
อาจคาดหวังเรือใบเข้าไอหมอก
แล้วถูกหลอกเข้าไปในไอฝน
ความละม้ายไขว้เขวคือเล่ห์กล
ผู้อดทนแรงพัดจะหยัดยืน
๓.ระเบียงบ้านลานลมในร่มรัก
มาผ่อนพักรับลมอันร่มรื่น
ริมร่มไม้ใบบางลมครางครืน
ไม้ใหญ่ยื่นกิ่งกลมให้ร่มเงา
ระเบียงบ้านลานลมยังร่มรื่น
ช่างสดชื่นสะอาดอากาศเช้า
ยกกาน้ำแห้งผากออกจากเตา
ลมพัดเถ้าสู่ฟ้า..วันอาทิตย์…
๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๓
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
01 พฤศจิกายน 2024, 12:22:PM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: *ระเบียงผ่อนคลาย ชมวิว* (อ่าน 4874 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: