ใส่บาตรวันเกิด
เหล้ากินเข้าไปแล้วก็ขาดสติ...มีเรื่องเล่า ว่า วันเกิดของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง กลางคืนเลี้ยงฉลองร่ำสุรากันเต็มที่..เมาแประ..รุ่งเช้าอยากใส่บาตรทำบุญเอา ฤกษ์ ขณะตักข้าวจะใส่บาตร ด้วยความเมาทำข้าวหก หมาก็วิ่งกรูกันเข้ามาแย่งกันกินข้าว กัดกันเจี๊ยวจ้าวพันแข้งพันขาจนเดินไม่ได้.. ด้วยความโมโห..เงื้อเท้าเตะหมาเต็มแรง...หมามันก็หลบทัน แต่พระหลบไม่ทัน โดนหน้าแข้งเต็มๆ ทั้งๆที่ไม่ได้ร่วมแย่งข้าวด้วยสักหน่อย ขณะใส่บาตร..รู้สึกว่ากับข้าวที่เตรียมไว้ ไม่พอดีกับพระ แกตะโกนเรียกหลานลั่นเลย.... "อีหนู เอาปลาทูมาอีกสององค์ วันนี้พระมาสี่ตัว..." เหล้ามันทำให้คนกิน..ไม่เป็นผู้เป็นคน..พูดผิด..คิดผิด ทำผิด แล้วยังจะกินมันอยู่อีกหรือ........ ???
ล้างแค้น...
มือ ปืนเมืองเพชร...เมาแอ๋เข้ามาหาพระมันชูปืนขึ้น..แล้วเดินเป๋เข้ามา หลวงพี่ก็เลยโดดหลบเข้าข้างเสา เพราะพระก็เสียวเป็นเหมือนกัน... มันบอกว่า..หลวงพี่ต้องเป็นพยานให้ผมด้วย... ไอ้แคล้วมันฆ่าพ่อผมตาย..ผม ขอสาบานต่อหน้าพระว่า..ผมจะต้องล้างแค้นให้พ่อผมให้ได้... ถ้าผมฆ่าไอ้แคล้วไม่ได้..ชีวิตนี้นอนตาไม่หลับ หลวงพี่โผล่ออกมาจากเสา..แล้วบอกว่า..สาธุ..ขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยที่คิด จะล้างแค้น คนทั้งศาลาหันมามองหน้าพระเป็นตาเดียว... โธ่...ก็มันถือปืนส่ายอยู่อย่างนั้นจะให้พระทำยังไง... น่าจะเห็นใจพระบ้างนะ....อาตมาก็พูดกับมือปืนต่อว่า.... ล้าง..หมายถึง..ทำให้สะอาด การล้างแค้นเป็นเรื่องดี เรามีความแค้น...แสดงว่า..ความแค้นมันมาเปื้อนจิตใจเรา.. การล้างแค้น...คือล้างที่จิตใจของเราให้สะอาด..ให้ความแค้นมันหมดไปจากใจ เรา... การไปยิงเขาตายอีก...เป็นการเพิ่มความแค้น.... ลูกหลานเขาก็ตามจะมายิงมาฆ่าเราอีก..วนเวียนอย่างนี้ไม่จบสิ้น การล้างแค้น..จึงเป็นการอโหสิกรรม..หมดเวรหมดกรรม อาตมาจึงขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วย...พูดเสร็จพระก็หลบไปยืนบังเสาไว้ พระไม่กลัวมันหรอก..แต่พระไม่ประมาท
โสเภณีที่รัก
วัน หนึ่งมีคนมานิมนต์ให้ไปเทศน์ให้โสเภณีฟัง ตั้งแต่บวชมา..เพิ่งจะเจอครั้งนี้แหละ...มันเทศน์ยากพิลึก พอไปถึงทุกคนมองพระเหมือนตัวประหลาด ...เข้ามาทำไมวะเนี่ย พอนั่งปุ๊บ..มองไปรอบๆ..ไม่มีใครสนใจสักคน.... คิดในใจว่า.. จะเอาสูตรไหนมาเทศน์สู้กับมันดีวะเนี่ย ..... ทำใจดีสู้เสือ..เริ่มต้นคำแรกว่า.... "สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนาสูง..".... ได้ผลแฮะ...ได้ผลดีเกินคาด ทุกคนหันมามอง ตั้งใจฟังหูผึ่งว่าพระจะพูดอะไรต่อ....ได้โอกาส..พระเลยปล่อยไม้เด็ดเลย สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนาสูง..ผู้ขายของเก่ากินโดยไม่ต้องลงทุน เมื่อน้องหญิงอยู่ที่บ้าน....คนทั่วไปจะเรียกน้องหญิงอย่างยกย่องว่า.. กุลสตรี...ยกย่องว่าเป็น เพศแม่แต่พอน้องหญิงมาอยู่ในสถานที่อย่างนี้ ความเป็นกุลสตรีความสูงส่งของเพศแม่มันถูกทำลายไป เขาเรียกน้องหญิงว่า...อีตัว.... เวลาเขาจะหาความสุขจากเรือนร่างเธอ.. เขามารับเธอไป..เขาไม่ได้พูดให้เกียรติเธอเลย... แทนที่เขาจะบอกว่า..มาเชิญเธอไป..เขากลับใช้คำว่า..หิ้วไป ใช้คำว่า..หิ้ว...เห็นเราเหมือนเป็ดเหมือนไก่..ไม่ให้เกียรติเราเลย... เราน่าจะกลับไปอยู่บ้าน...ใช้ชีวิตทำมาหากินเหมือนเดิม.. ถึงแม้จะไม่ร่ำรวยแต่เราก็อยู่อย่างมีเกียรติ... ทุกคนนั่งนิ่ง..ทำตาแดงๆ เป็นโอกาสดีของพระแล้วที่จะดึงเธอมาเป็นพวก..จึงสนทนาสอบถามเพื่อผ่อนคลาย บรรยากาศ น้องหญิงหลายคนสักตุ๊กแกไว้ที่ต้นแขน..สักทำไมหรือ.. อ๋อ..เวลาผู้ชายมาใช้บริการ..จะได้จับผู้ชายให้ติด...เพราะตุ๊กแกขามัน เหนียวเกาะแน่น..แกะไม่หลุด โอ..หลักการดี..อาตมาเลยแกล้งหยอกไปว่า... ตุ๊กแกมันเกาะแต่ผู้ชายอย่างเดียวหรือ...มันเกาะเอาซุปเปอร์โกโนเรียมาด้วย หรือเปล่า...... ทุกคนเงียบกริบ รอยยิ้มเริ่มหายไป...บรรยากาศชักไม่น่าลงทุนแล้ว.... อาตมาเลยถามต่อ....อ้าว..แล้วบางคนที่สักขอกับเคียวไว้ที่ต้นแขนล่ะ.... มีความหมายว่าอย่างไรก็เอาไว้เกี่ยวสตางค์จากกระเป๋าคนมาเที่ยวไง....... เออ..คนเรานี่มันโง่ดี..ถ้าสักขอกับเคียวแล้วมันเกี่ยวสตางค์ได้จริง... คนไทยทั้งประเทศไม่ต้องมัวเหนื่อยไปทำมาหากินหรอก...สักขอกับเคียวไห้เต็ม ตัวก็รวยแล้ว
เทศน์รอบดึก
มีอยู่รายการหนึ่ง เขาจัดงานหารายได้เข้ามัสยิด...
นิมนต์พระพยอมมาช่วยเทศน์ดึงคนให้หน่อย..เพราะช่วงที่กำลังดังนี้ เทศน์ทีมีคนฟังเป็นหมื่น..พอประกาศชื่อพระพยอมคนสนใจมาก
เขาจัดโปรมแกรมให้พระพูดตอนดึก 5 ทุ่ม
พระก็อยากพูดเร็วๆ พูดเสร็จจะได้รีบกลับ...
เขาบอกว่า..ไม่ได้..ถ้าท่านกลับ..คนก็กลับกันหมด..
หอยทอด โรตี..ไก่ย่าง..ยังขายไม่หมดเลย..
เดี๋ยวท่านรอให้ขาย หอยทอด โรตี ไก่ย่างหมดก่อน..ค่อยขึ้นเทศน์
กรรมของพระ...ไม่ควรดังเลยเรา....
เจ๊กหมดทุนเจ๊กหมดทุน.....
มีชายคนหนึ่งอยู่สุไหงโกลก..ชื่ออาฮัง..
อาฮังหรือ..เจ๊กฮัง..ค้าขายขาดทุนปีเดียวสามสี่แสนบาท....
ไม่เป็นอันทำมาหากินเลย..พอขาดทุนสี่แสนก็มานั่งทำท่าเหมือนลิงป่วย.....
หมดแรง..หมดอาลัยตายอยาก....
พูดพร่ำอยู่คำเดียวทั้งวัน...อั๊วขาดทุนหมดแล้ว..อั๊วขาดทุนหมดแล้ว
จนญาติๆระอา...ไม่รู้จะทำอย่างไร เลยหามมาส่งที่วัดสวนโมกข์...
อาตมาอยู่สวนโมกข์ได้ 7 ปีพอดี ปรากฏว่า..มันก็มานั่งที่ตรงหินโค้ง...นั่งเป็นทุกข์ในท่าเจ๊กหมดทุนท่าเดิม...
นั่งบ่น..อั๊วเจ๊งหมดแล้ว..อั๊วขาดทุนหมดแล้ว........
อาจารย์พุทธทาสก็เลยเข้าไปถามว่า....
ฮัง...ลื้อขาดทุนแน่หรือ....
แน่ซิครับ...สี่แสนปีเดียวหมดเกลี้ยง..ผมขาดทุนย่อยยับหมดเลย....
คิดให้ดี...ขาดทุนจริงๆนะเหรอ....
จริงซิครับ...อย่ามาถามยั่วโทสะผมนะ......
อาจารย์พุทธทาสก็เลยถามต่อว่า...โยมอาฮัง...
ที่ลื้อบ่นขาดทุน..ขาดทุนนี่..ลื้อเกิดมาลื้อมีทุนติดตัวมาเท่าไร.......
วันที่ลื้อเกิดมานะ
อาฮังนั่งคิดอยู่พักหนึ่ง..เอ๊ะ..ใครมันจะไปดึงทุนออกมาจากท้องแม่ได้ในวันเกิดนะ พระนี่ถามอะไรแปลกๆ...
อาฮังตอบว่า ..ไม่มี..
อาจารย์พุทธทาสท่านก็ถามต่อ...เดี๋ยวนี้หม้อหุงข้าวลื้อมีไหม...
หม้อหุงข้าวมี..
เสื้อผัามีใส่ไหม...
มี...
บ้านมีอยู่ไหม......
มี...
ถามอะไรต่อมิอะไร..มันก็ตอบว่า..มีๆๆ...
อาจารย์พุทธทาสท่านจึงบอกว่า ..อาฮัง...ลื้อไม่ได้ขาดทุนหรอก
เพียงแต่กำไรมันลดลงไปนิดหน่อยเท่านั้น.
ที่มา Mail transferts
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
23 พฤศจิกายน 2024, 10:38:AM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: คำเทศน์ของพระพยอม (เวอร์ชั่นมันส์ๆ...) สนุกๆ ได้แง่คิด (อ่าน 2161 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: