ได้แต่คอย เขียนคำลำนำอ้อน
ระบายวาง ทางกลอน ตอนใจเหงา
เพียงดายเดียว เปลี่ยวจิต พิษซึมเซา
คนเคยบอก รักเรา เขาเรรวน
ได้แต่คอย เขียนคำ ลำนำฝาก
ดุจเขาพราก จากไกล จึงไห้หวน
ทั้งที่มอง เห็นอยู่ คนคู่ควร
กลับทิ้งนวล หวนไห้ ดวงใจตรม
ได้แต่คอย เขียนคำ ลำนำโศก
ดุจอยู่โลก เดียวดาย ให้ขื่นขม
วางอักษร กลอนเคล้า เศร้าระทม
ด้วยสุดข่ม อาลัย เหมือนไกลกัน
ได้แต่คอย เขียนคำ ลำนำบอก
ฝากรักออก จากห้วง ดวงใจฉัน
แม้นกาลผัน ผ่านไป ให้นานวัน
ยังคงมั่น รักเดียว มิเหลียวใคร....
“สุนันยา”
เห็นความเศร้าเคล้าระคนปนอักษร
ภาพบังอรซ้อนมากล่าวปราศรัย
ระบายรักหนักวิญญาณ์ร่ำอาลัย
สะท้อนใจให้อาวรณ์เขาจรลา
น้ำตาหยดรดอาบเป็นคราบฝัง
เสมือนดั่งสั่งคำส่งพร่ำหา
ยังคงรักนักเจ้าเท่าวิญญาณ์
จงคืนมาข้ารอพะนอทรวง
ทุกวันคอยน้อยใจหม่นในจิต
เคยแนบชิดผิดสลดสิ้นหมดหวง
ฤๅลืมรสหมดรักให้ตักตวง
หลังล่อลวงล่วงล้ำให้ช้ำตรอม
โอ้อกเราเศร้าลำเค็ญเป็นบุปผา
เบื่อระอารากลิ่นยามสิ้นหอม
ภมรสลดหมดภิรมย์หลังดมดอม
ทิ้งพะยอมพร้อมพรากบินจากลา
ส่งฝากสาส์นผ่านเดือนช่วยเตือนส่อง
ฝากลมล่องลอยเลื่อนเป็นเพื่อนหา
ฝากทวยเทพเทวัญชั้นนภา
เชิญอักษราตรารัดผูกมัดใจ...
บูรพาท่าพระจันทร์