ได้แต่คอย รำลึก ถึงวันเก่า
ที่สองเรา เฝ้าปรน ไม่ไปไหน
ยังสองกาย ก่ายกอด พรอดพิไร
ร่วมประคอง สองใจ ให้ละมุน
ได้แต่คอย รำลึก ถึงวันก่อน
ที่นวลแก้ว แววอ่อน อ้อนนอนหนุน
หลบพายุ ฝนซา ห่าพิรุณ
ซบไออุ่น อ้อมแขน ที่คุ้นเคย
ได้แต่คอย รำลึก ถึงวันวาน
ที่ตัวฉัน มันพาล ทำชาเฉย
ไม่สำนึก ถึงรัก ที่ละเลย
ปล่อยความหมอง งอกเงย จนเคยตน
ได้แต่คอย รำลึก ถึงวันนั้น
หากจะทัน โอกาส อีกสักหน
จะขอกลับ รับรัก แม่หน้ามน
จะขอกอด หนึ่งคน จนชีพวาย
ที่สองเรา เฝ้าปรน ไม่ไปไหน
ยังสองกาย ก่ายกอด พรอดพิไร
ร่วมประคอง สองใจ ให้ละมุน
ได้แต่คอย รำลึก ถึงวันก่อน
ที่นวลแก้ว แววอ่อน อ้อนนอนหนุน
หลบพายุ ฝนซา ห่าพิรุณ
ซบไออุ่น อ้อมแขน ที่คุ้นเคย
ได้แต่คอย รำลึก ถึงวันวาน
ที่ตัวฉัน มันพาล ทำชาเฉย
ไม่สำนึก ถึงรัก ที่ละเลย
ปล่อยความหมอง งอกเงย จนเคยตน
ได้แต่คอย รำลึก ถึงวันนั้น
หากจะทัน โอกาส อีกสักหน
จะขอกลับ รับรัก แม่หน้ามน
จะขอกอด หนึ่งคน จนชีพวาย
เมฆสีรุ้ง
๑๔ เม.ย. ๒๕๕๕
๑๔ เม.ย. ๒๕๕๕
ได้แต่คอย คำนึง ถึงดวงจิต
คราเคยชิด พิศชม ตรมมิหาย
มาบัดนี้ ไร้เงาเคล้าเคียงกาย
น้ำตายริน พร่างพราย ใจตรอมตรม
ได้แต่คอย คำนึง ถึงวันผ่าน
สิ้นรสหวาน พาลชืด จนจืดขม
สิ้นเยื่อใย ในรัก เคยฝากพรหม
บัดนี้ต้องระทม ขมวิญญาณ์
ได้แต่คอย คำนึงรำพึงแผ่ว
คงไร้แววรักหวน ทวนสมาน
ด้วยคำคนย้อนยอก บอกประจาน
สุดร้าวราน รักนี้ ฤดีดวง
ได้แต่คอย คำนึง ถึงวันก่อน
รอยร้าวรอน ตามติด เป็นพิษสรวง
คงยากฝืนคืนกลับ เพื่อซับทรวง
เมื่อเธอลวงหลอกเล่น ไม่เป็นจริง
“สุนันยา”
คราเคยชิด พิศชม ตรมมิหาย
มาบัดนี้ ไร้เงาเคล้าเคียงกาย
น้ำตายริน พร่างพราย ใจตรอมตรม
ได้แต่คอย คำนึง ถึงวันผ่าน
สิ้นรสหวาน พาลชืด จนจืดขม
สิ้นเยื่อใย ในรัก เคยฝากพรหม
บัดนี้ต้องระทม ขมวิญญาณ์
ได้แต่คอย คำนึงรำพึงแผ่ว
คงไร้แววรักหวน ทวนสมาน
ด้วยคำคนย้อนยอก บอกประจาน
สุดร้าวราน รักนี้ ฤดีดวง
ได้แต่คอย คำนึง ถึงวันก่อน
รอยร้าวรอน ตามติด เป็นพิษสรวง
คงยากฝืนคืนกลับ เพื่อซับทรวง
เมื่อเธอลวงหลอกเล่น ไม่เป็นจริง
“สุนันยา”