1
ฟังเสียงฝนเล่นดนตรี-เพลงชีวิต
ใบไม้ปลิด ร่วงหล่นบนกองหญ้า
เปลไม้ไผ่ไหวโยก-โยกไปมา
แอบงีบพักสายตาหลายนาที
เขาบอกว่าเป็นพายุฤดูร้อน
เกิดขึ้นตอนเย็นเยียบและเงียบฉี่
อบอ้าวร้าวลึกขึ้นทุกที
วันนี้-จึงมีปรากฏการณ์
2
ณ บ้านไร่ท้ายสวนม้วนตลบ
ข้าพเจ้าแอบหลบผู้พบ-ผ่าน
หนีจากกรุงรุ่งเรืองมาเมื่อวาน
สู่ก้อนหินดินดานที่บ้านเรา
ท่ามลมหนาวดาวพรายประกายพรึก
สูดอากาศยามดึกนึกเรื่องเก่า
เห็นเมฆน้อยลอยนิ่งทอดทิ้งเงา
หลายนาทีที่ข้าพเจ้านั่งเฝ้ามอง
กระท่อมน้อยปลายนากลับมาอยู่
เคยเห็นปู่คว้าป่ายตะเกียงส่อง
ภาพวัยฝันวันพบ-ย้อนทบกอง
เพียงละอองน้ำค้างรอร้างลา
หลับตาสู่ห้วงฝันอันมืดมิด
ที่ถูกปลิดก้านหล่นจากต้นกล้า
จนเด็กน้อยเติบใหญ่ในไม่ช้า
เผชิญโชคชะตาอย่างสาใจ
จนวารผ่านกาลเปลี่ยนหมุนเวียนเร่ง
ดอกนีออนบานเบ่งปลั่งเปล่งใส
ข้าพเจ้ายืนเหงาใต้เสาไฟ
รับรู้ถึงการเปลี่ยนไป-ไม่กลับมา
3
ใต้ร่มไม้ธรรมดาแห่งสามัญ
ค่อยค่อยเติมชีวันเพื่อฟันฝ่า
แม่ยังเตรียมเครื่องปรุง-หุงข้าวปลา
ดูแม่แก่ชราเกินกล้ามอง
พ่อยังคงกร้านดำทำงานหนัก
คงปลูกผักเลี้ยงปลามาสนอง
ตามประสาชาวสวนล้วนครรลอง
เกินที่จะเรียกร้องให้หยุดทำ
4
บนเส้นทางยาวไกลยังไม่รู้
ข้าพเจ้ามองดูจนมืดค่ำ
พร้อมเสียงรถเคลื่อนไปในม่านดำ
ไปสู่ที่ประจำ…ทำนองเมือง!!
……