ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างฉันและเธอ
เธอกำลังนับวันเป็นบัณฑิต
ฉันหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นคนเก่า (ฉันใช้สิทธิ์ต่างต่างอยู่อย่างเก่า)
เธอมีฟ้าสีทองคอยส่องเงา
ฉันมีฟ้าสีเทาอยู่เท่าเดิม
เธออยู่สุขกับร่มของโดมได้
ฉันอยู่ใต้ต้นตะแบกเหมือนแรกเริ่ม
เธอกำลังจะมีศักดิ์ศรีเติม
ฉันก็เพิ่มศักดิ์ตนเป็นคนเลว
เธออยู่ในสังคมความสมสุข
ฉันทนทุกข์ในสังคมความล้มเหลว
เธอพิสุทธิ์ผุดผ่องดุจทองเปลว
ฉันตกเหวความช้ำรินน้ำตา (ฉันตกเหวความช้ำและน้ำตา)
เธออยู่กรุงได้ฟังเสียงสังคีต
ฉันฟังหรีดเรไรอยู่ในป่า
เธออยู่บนความหวานของมารยา
ฉันก็บ้ากับความซื่ออย่างดื้อดึง
เธอก้าวไปในเส้นทางความห่างเหิน (เธออยู่บนเส้นทางความห่างเหิน)
ฉันกลับเดินตามสิทธิ์ความคิดถึง
เธอไม่เคยเข้าใจฉันให้ซึ้ง
ฉันเองจึงน้อยใจมิใช่เบา
เธอกำลังนับวันเป็นบัณฑิต
ฉันหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นคนเก่า (ฉันหมดสิทธิ์จะดิ้นรนเป็นคนเก่า)
เธอมีฟ้าสีทองคอยส่องเงา
ฉันมีฟ้าสีเทาอยู่เท่าเดิม ฯ
วันที่ดอกไม้บาน
ปล.ขออภัย ไม่แน่ใจนามจริงผู้แต่ง (ว่าชื่อ สรจิต หรือเปล่า ไม่แน่ใจนะ) เป็นบทกวีของคนเดือนตุลา (2519)
ปล.บทกลอนในกระทู้ล่าง ก็แต่งเลียนแบบกวีบทนี้แหละ ทุกท่าน กวีบทนี้เพราะกว่ามากมายหลายเท่า อริญชย์คงไม่อาจเทียบได้ ขอนำลงมาให้เพื่อน ๆ อ่านเพื่อศึกษาเป็นตัวอย่าง ณ โอกาสนี้เน้อ
เธอกำลังนับวันเป็นบัณฑิต
ฉันหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นคนเก่า (ฉันใช้สิทธิ์ต่างต่างอยู่อย่างเก่า)
เธอมีฟ้าสีทองคอยส่องเงา
ฉันมีฟ้าสีเทาอยู่เท่าเดิม
เธออยู่สุขกับร่มของโดมได้
ฉันอยู่ใต้ต้นตะแบกเหมือนแรกเริ่ม
เธอกำลังจะมีศักดิ์ศรีเติม
ฉันก็เพิ่มศักดิ์ตนเป็นคนเลว
เธออยู่ในสังคมความสมสุข
ฉันทนทุกข์ในสังคมความล้มเหลว
เธอพิสุทธิ์ผุดผ่องดุจทองเปลว
ฉันตกเหวความช้ำรินน้ำตา (ฉันตกเหวความช้ำและน้ำตา)
เธออยู่กรุงได้ฟังเสียงสังคีต
ฉันฟังหรีดเรไรอยู่ในป่า
เธออยู่บนความหวานของมารยา
ฉันก็บ้ากับความซื่ออย่างดื้อดึง
เธอก้าวไปในเส้นทางความห่างเหิน (เธออยู่บนเส้นทางความห่างเหิน)
ฉันกลับเดินตามสิทธิ์ความคิดถึง
เธอไม่เคยเข้าใจฉันให้ซึ้ง
ฉันเองจึงน้อยใจมิใช่เบา
เธอกำลังนับวันเป็นบัณฑิต
ฉันหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นคนเก่า (ฉันหมดสิทธิ์จะดิ้นรนเป็นคนเก่า)
เธอมีฟ้าสีทองคอยส่องเงา
ฉันมีฟ้าสีเทาอยู่เท่าเดิม ฯ
วันที่ดอกไม้บาน
ปล.ขออภัย ไม่แน่ใจนามจริงผู้แต่ง (ว่าชื่อ สรจิต หรือเปล่า ไม่แน่ใจนะ) เป็นบทกวีของคนเดือนตุลา (2519)
ปล.บทกลอนในกระทู้ล่าง ก็แต่งเลียนแบบกวีบทนี้แหละ ทุกท่าน กวีบทนี้เพราะกว่ามากมายหลายเท่า อริญชย์คงไม่อาจเทียบได้ ขอนำลงมาให้เพื่อน ๆ อ่านเพื่อศึกษาเป็นตัวอย่าง ณ โอกาสนี้เน้อ
ผู้แต่งกลอนบทนี้คือ สรจิตร สินยวง ครับ (ฉบับในมือผมมีบางจุดที่ต่างกัน เลยวงเล็บเป็นสีแดงไว้เปรียบเทียบครับ