อารมณ์อรุณ
มืดมนมานานตรึงม่านสมัย
จวบมืดกรายไกล้รำไรอุษา
จึงเหมือนมืดล้วยเรรวนชะตา
พิศวงเวลาล้าเล่ห์ระบาย
ชะรอยเสื่อมกฤตยาแห่งกาฬปักษ์
หรือน้ำหนักราตรีเพียงพลีสลาย
ปาฏิหาริย์ลึกลับพลอยดับวาย
สับสนมากมายปลายมืดมัว
เสมอโรยราพลังผิดสังเกต
ดื่นดวงดาเรศสังเวชสลัว
สงัดเย็นก็แปรเปลี่ยนเพียรแยกตัว
เรื้องร้างไปทั่วทั้งมณฑล
อุษาร่ำไรไขแสงสาง
เบิกรุ่งเลือนรางช่างชวนฉงน
เยี่ยมฟ้าตะวันออกฟอกเมืองบน
แล้วโรยหล่นละอองแสงแปลงเมืองดิน
อัศจรรย์หมอกฟ้าตรึงอากาศ
ดังตรึงสวาทอุษาไว้ให้หยุดถวิล
แต่โกฏิฤทธิ์พิศดารมารมลทิน
ก็พ่ายสิ้นอุษาสวาทวาดลำเนา
หนาวเย็นเป็นพื้นชื้นน้ำค้าง
ช่วยสร้างพลังอุษาฝ่าฟันเหงา
เงียบเงียบข่มขับพยับเทา
ยังเรื่อยเร้าฟื้นอรุณละมุนละไม
ไม่ทันฟ้าดินเสร็จสิ้นสว่าง
เงาหนึ่งเยื้องย่างสร้างเงาไหว
ดุ่มตามซอกซอยค่อยค่อยไป
อาศัยแสงสางนำทางจร
จวบลุถนนใหญ่ในที่สุด
เงาหยุดยืนนิ่งไม่เหนื่อยอ่อน
เหลียวซ้ายแลขวาเต็มอาทร
ห่มหมอกหนาวสะท้อนสะท้านกาย
แทบร้างผู้คนถนนตรู่
นกหกเห็นกู่แล้วลับหาย
ช้านานยืนรอพอกระวนกระวาย
จนเห็นนิมิตหมายสุดสายตา
เหมือนสว่างทั้งเวิ้งจักรวาล
สรรพสีร้าวรานไปทั้งหล้า
เรืองไรลีลาศบาดหมองมา
หยุดยืนต่อหน้าต่างค่าประจัน
ร่างที่ยืนคอยเคลิ้มคล้อยระทึก
พิลึกความคลับคล้ายไม่คาดฝัน
ถ้าเทียบร่างต่อร่างก็ต่างกัน
แต่ถ้าเทียบตรงท้องนั้นคล้ายกันกระไร
ต่างอุ้มออกมาเพลาเช้า
หนึ่งเบาหนึ่งหนักประจักษ์ได้
ร่างหนึ่งเวียนมารับแล้วลับไป
อีกร่างหนึ่งรอใส่ในนามบุญ
บาลีคาถามนตราขลัง
แว่งดังปลุกศรัทธามาเนื่องหนุน
ร่างหนึ่งพนมมือถือพุทธคุณ
หากใจไพล่ครุ่นคำนึงตน
อธิษฐานภาวนาประสาหมอง
ขอให้ท้องถ้วนกำหนดเลื่อนลดฉงน
อย่าได้คลอดยากลำบากลำบน
บุญกุศลบุญปลูกได้ลูกดี
ให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
อย่าตกทุกข์อยู่รอดค่อยปลอดหนี้
โรคภัยไข้เจ็บอย่าพึงมี
สมประสงค์ลูกนี้ทุกประการ
เงียบเสียงมนตราไม่ช้านั้น
เรืองไรค่อยหันร่างผันผ่าน
อุ้มบาตรวาดเส้นทางสว่างทาน
คล้ายด้นไปในหมอกม่านกาลเวลา
จึงร่างที่อุ้มท้องเยื้องย้ายกลับ
ดุ่มลำดับตามแสงแห่งอุษา
คล้ายอุ่นใจในทรวงหนึ่งช่วงชะตา
เร้าให้อุ้ยอ้ายฝ่าทุกฝ้าละออง
แรคำ ประโดยคำ
(ในเวลา, เมษายน ๒๕๔๑.)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
22 ธันวาคม 2024, 11:44:PM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: ด้วยจิตคารวะ (อ่าน 162050 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: