เพียงหนึ่งวันมันมีค่าอย่าให้ผ่าน
เมื่อวันวานผู้คนต้องหม่นหมอง
มีเรื่องยุ่งมายิงฆ่าน้ำตานอง
เดินขบวนเรียกร้องขอสิทธิ์ตน
ทำสิ่งใดมักตามใจความรู้สึก
มิได้นึกด้วยปัญญาหาเหตุผล
คิดแต่เรื่องผลประโยชน์ใช้เล่ห์กล
แล้วมาบ่นด่าว่าอ้าแขนรอ
หวังช่วยเหลือเยียวยาจากราษฎร์รัฐ
คอยเขาจัดมอบให้เมื่อไรหนอ
ไม่ดิ้นรนขวนขวายไม่เพียงพอ
มัวแต่รอของแจกแปลกสิ้นดี
มัวคอยรอรับบริจาคมีมากล้น
ไม่ดิ้นรนเป็นหลักรักศักดิ์ศรี
ทะเลาะกันทุกวันเบื่อเต็มที
ผู้ใหญ่ไม่สามัคคี...น่ารำคาญ...
ริน ดอนบูรพา
๕ เม.ย. ๕๕
เมื่อวันวานผู้คนต้องหม่นหมอง
มีเรื่องยุ่งมายิงฆ่าน้ำตานอง
เดินขบวนเรียกร้องขอสิทธิ์ตน
ทำสิ่งใดมักตามใจความรู้สึก
มิได้นึกด้วยปัญญาหาเหตุผล
คิดแต่เรื่องผลประโยชน์ใช้เล่ห์กล
แล้วมาบ่นด่าว่าอ้าแขนรอ
หวังช่วยเหลือเยียวยาจากราษฎร์รัฐ
คอยเขาจัดมอบให้เมื่อไรหนอ
ไม่ดิ้นรนขวนขวายไม่เพียงพอ
มัวแต่รอของแจกแปลกสิ้นดี
มัวคอยรอรับบริจาคมีมากล้น
ไม่ดิ้นรนเป็นหลักรักศักดิ์ศรี
ทะเลาะกันทุกวันเบื่อเต็มที
ผู้ใหญ่ไม่สามัคคี...น่ารำคาญ...
ริน ดอนบูรพา
๕ เม.ย. ๕๕
สายเลือดทาสตกค้างหว่างนายบ่าว
ก้มกราบท้าวเทวาท่าอาจหาญ
รอรับแจกดั่งแบกหน้ามาขอทาน
ซึ้งซาบซ่านการให้เต็มใจรับ
ผู้ปกครองสั่งได้สมใจนึก
ดั่งโคถึกฝึกรู้สู้เจนจับ
มีหญ้าอ่อนป้อนปากยามอยากงับ
ไม่สดับใดอื่นสดชื่นแล้ว
คือมวลชนสังคมที่ตรมเศร้า
ไร้เร่งเร้าเผาสำนึกเกินฝึกแถว
เชื่อผู้ใหญ่ใจทรามตามแนะแนว
ทาสพ้นแล้วแต่คนไม่พ้นตาม
ก้มกราบท้าวเทวาท่าอาจหาญ
รอรับแจกดั่งแบกหน้ามาขอทาน
ซึ้งซาบซ่านการให้เต็มใจรับ
ผู้ปกครองสั่งได้สมใจนึก
ดั่งโคถึกฝึกรู้สู้เจนจับ
มีหญ้าอ่อนป้อนปากยามอยากงับ
ไม่สดับใดอื่นสดชื่นแล้ว
คือมวลชนสังคมที่ตรมเศร้า
ไร้เร่งเร้าเผาสำนึกเกินฝึกแถว
เชื่อผู้ใหญ่ใจทรามตามแนะแนว
ทาสพ้นแล้วแต่คนไม่พ้นตาม
"บ้านริมโขง"