Re: :+: เหงากลางเงาฝัน :+:
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
27 กันยายน 2024, 10:25:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: :+: เหงากลางเงาฝัน :+:  (อ่าน 15490 ครั้ง)
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« เมื่อ: 03 เมษายน 2012, 04:27:PM »

ดึกแล้ว...แต่ยังคงคิดถึง
ภาพคืนวานที่เคยซึ้ง...ตราตรึงตราบวันนี้
ความทรงจำแสนบอบบาง...มันซีดจางหรือยังคนดี
ความรู้สึกที่มี...ถึงวันนี้...เปลี่ยนไปแล้วหรือยัง

แสงจันทร์กระจ่าง...พราวพร่างฟ้า
คงอาลัยห่วงหา...ถึงความหลัง
กอดตัวเองไม่อุ่น...ไม่คุ้นกับการอยู่ลำพัง
รอและคอยด้วยความหวัง...เพียงสักครั้งจะกลับมา

กลับมาบอกว่ายังรักกันเหมือนเก่า
ในอ้อมกอดของความเป็นเรา...ที่โหยหา
โอบฉันไว้..ด้วยความห่วงใย..ยามมีน้ำตา
กุมมือกัน...ในวันที่อ่อนล้า...แล้วปลอบว่า...ไม่เป็นไร

หากที่มี...คงได้เท่านี้...เพียงเงาฝัน
หลงอยู่กับภาพความผูกพัน...ต้องห่างไกลกันไปถึงไหน
เหงาเหลือเกินแล้วคืนนี้...ไม่มีใคร
ยังคิดถึง...รู้บ้างไหม...นานเท่าไรไม่เคยลืม

เอ-มิ-กา




คืนนี้,ในความคิดถึงคนึงนั้น
ท่ามกลางความฝันอันด่ำดื่ม
อยากบอกใจกระซิบเพื่อหยิบยืม
เพื่อให้ลืมความเหงาเศร้าวันนั้น

จันทร์ทอแสงกระจ่างกลางราวฟ้า
สาดแสงมาดั่งตอบเพื่อปลอบขวัญ
เธอคงรับจากใจได้เหมือนกัน
รอเพียงวันเคยชื่นคืนกลับมา

ให้ส่งผ่านความเหงาคราวใจหมอง
เพื่อประคองใจโรย ที่โหยหา
ปลอบดวงใจสั่นคลอนที่อ่อนล้า
ซับน้ำตารวยรินให้สิ้นไป

คืนนี้,ในความคิดถึงคนึงนั้น
ความผูกพันหยัดยืนแม้คืนใกล้
จะฝากบอกความเหงาเคยเศร้าใจ
ให้ผ่านไปช่วงคืน...เมื่อตื่นฝัน



รการตติ


ผวาตื่นฟื้นกายอยากก่ายกอด
ฟังคำพลอดรำพันเพียงฉันปลื้ม
ภาพลวงตามาลวงล่อพอไม่ลืม
แล้วหยิบยืมใจไปลับกับสายลม

คงเป็นแค่คนเหงาที่เขาทิ้ง
ให้เรานิ่งตรมตรอมยอมขื่นขม
แม้ในฝันฉันยังนั่งระทม
น้ำตาพรมพร่างตัวช่างกลัวใจ

มิอยากฝันพรั่นพรึงถึงรักก่อน
โดนตัดรอนทิ้งขว้างแต่ข้างไหน
ต่อแต่นี้มิมีฝันทุกวันไป
เลิกรักใครเพื่อตัวเราเลิกเหงาเอย

karnkai




กอดกับเงา เหงาหงอยคอยผวา
เหมือนเย็นชาเผชิญความเมินเฉย
สิ่งลวงใจลอยล่อก็เหมือนเคย
แล้วละเลยลอยชายกับสายลม

เหงาในใจเพียงคนที่บ่นเหงา
คนครองเศร้าระบายที่ถ่ายถม
สุขทุกข์เคล้ามายาใช่อารมณ์
เพียงเพาะบ่มความเหงามาเคล้าคลอ

เก็บใจฝันวันเหงาในเงาฝัน
อย่าทิ้งกันเกินนานฉันวานขอ
รักตัวเองเกินไป..ใช่ฉันรอ
จะไม่ท้อในนิยามของความเหงา



รการตติ


คืนนี้คิดถึงใครไยไม่รู้
หรือมีอยู่ มากมาย หลายถิ่นที่
จนยากนัก จักคำนึง ถึงใครดี
โถ...อย่างนี้ คงเมื่อย แสนเหนื่อยใจ

เป็นคนไกล หรือใกล้ ใครคนนั้น
แม้นแต่เพียงในฝัน ยังหวั่นไหว
อยากรู้จัง ใครหนา หน้าอย่างไร
คงจะงาม สดใส คล้ายดารา

คิดถึงใคร กันแน่ แหม อยากรู้
โอ้โฉมตรู อยู่ไหน ให้ห่วงหา
ทำ รการฯ ร้อนรุ่ม กลุ้มอุรา
แม้นค่ำคืน มิข่มตา พาคะนึง

มีความเหงา เคล้าเรียง เคียงสัมผัส
สายลมผัด แผ่วมา พาคิดถึง
อนงค์นาง ฝั่งไหน ไยตราตรึง
รการฯเพ้อ รำพึง ถึงอรุณ... ขำแบบกระแดะหน่อยๆ


“สุนันยา”



คืนนี้คิดถึงใครก็ไม่รู้
เป็นเพียงผู้ซับแก้มแซมน้ำอุ่น
ที่ซึมซาบใจเรื่อมาเจือจุน
ให้ละมุนกว่าเคยที่เฉยชา

คราชิดใกล้ใครกันนะขวัญอ่อน
ใครที่ซ่อนใจไว้ไม่เห็นหน้า
หยดความเหงาเพียงอาบคราบน้ำตา
เพียงซับหน้าก็เห็นเป็นฉันใด

คิดถึงใครใจรู้ใช่อยู่เฉย
ความคุ้นเคยไม่รู้อยู่ที่ไหน
เคยพร่ำพรอดเคยท้วงคอยห่วงใย
คงเป็นได้เพียงถามความเป็นมา

ว่าความเหงาหยุดยั้งอยู่ฝั่งไหน
รูปร่างจะไฉไลเหมือนใบหน้า
ตอบไม่ได้ว่านามความเหว่ว้า
จะสวยกว่าความรักเมื่อทักทาย



รการตติ


คืนนี้ก็ เช่นกัน วันแสนเหงา
อยากมีเขา อยู่ใกล้ ในทุกที่
หลับตานอน ร้อนหนาว ร้าวฤดี
เหมือนดั่งมี ความมืด ยึดจิตใจ

ตัดอาลัย ให้หวล ป่วนปั่นนัก
ชายที่รัก จากลา น้ำตาไหล
เคยคุยกัน เช้าเย็น หลบเร้นไป
เธอเป็นไร หรือเปล่า ข่าวไม่มี

ฉันครวญคร่ำ ข้ามฟ้า เพื่อมาบอก
ความช้ำชอก ยอกฤทัย ไม่ไหวนี่
ขอได้โปรด ย้อนมา หนาคนดี
ฤทัยนี้ พังยับ เธอกลับกลาย
พันทอง



เมื่อเราต่างร่วมฝันวันแสนเหงา
เคยหยอกเย้า, แต่พลันฝันสลาย
หากแต่ความคิดถึงซึ่งมิคลาย
จะเปลี่ยนคืนฝันร้ายให้เป็นดี

กำลังใจที่ชื่นระรื่นจิต
ส่งความคิดถึงไปในใจที่
ฝากถึงเธอคนไกลว่าใจนี้
ยังล้นปรี่เกินใคร..แม้ใจเหงา

ถ้าส่งใจถึงกันทุกวันบ้าง
คนอ้างว้างคงรับกับใจเขา
ช่วยปกป้องดวงมานให้นานเนาว์
มาหยอกเย้าใจเยือนเหมือนดั่งเคย



รการตติ


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

สุนันยา, กังวาน, Thammada, แป้งน้ำ, amika29, รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ลมหนาว, sunthornvit, บูรพาท่าพระจันทร์, ไพร พนาวัลย์, ไม่รู้ใจ, panthong.kh, สิงขร, D

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 เมษายน 2012, 09:44:PM โดย รการตติ » บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s