บุเรงนองลั่นกลองรบ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3 ทหารเสือตองอู..ขุนพลคู่กาย-คู่ใจบุเรงนอง
เนงบาผู้ปราชัย
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
เขียนถึง"ตัวละคร"ในนิยายเรื่อง"ผู้ชนะสิบทิศ" คงจะไม่สมบูรณ์ ถ้าไม่เขียนถึงคนอีก 3 คน
อันบุคคลทั้ง 3 คนนี้ มีบทบาทและถือประหนึ่งเป็น"เพื่อนตาย"ในสถานะ"ขุนพล"ของบุเรงนอง..
ทั้ง 3 คนคือจาเลงกะโบ เนงบาและสีอ่อง
"ตัวละคร"ทั้ง 3 นี่แหละที่ทำให้ชัดเจนว่า"ผู้ชนะสิบทิศ" เป็น "นวนิยาย" !!!
เพราะแม้"ยาขอบ"จะเขียนเรื่องนี้ก่อนเขียน"สามก๊กฉบับวณิพก" แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อิทธิพลความคิดจากการอ่าน"สามก๊ก"ฉบับภาษาไทยของเจ้าพระยาพระคลัง(หน) และภาษาอังกฤษจากต้นฉบับของบริวิท เทเลอร์ มีส่วนที่"ยาขอบ"นำมาใช้ในการเขียน"ผู้ชนะสิบทิศ"
อย่างตอนที่"บุเรงนอง"ตีเมืองเมาะตะมะ และหงสา ใครที่เคยอ่าน"สามก๊ก" ก็จะรู้ว่า"ยาขอบ"นำมาใช้ เช่น การให้สีอ่อง บุกตีสอพินยาที่กำลังพักผ่อนระหว่างหนีโดยถอดเสื้อเกราะ หรือการที่ให้ทหาร"เวียนเทียน"กันเข้าค่ายโดยเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อตะคะญีเกิดหลุดปากให้เวลาหงสาก่อนเข้าโจมตี ทำให้ฝ่ายหงสา"รู้"ว่าทัพใหญ่ตองอูยังมาไม่ถึง แต่เมื่อเห็นทหารจำนวนมากโห่ร้องเดินเข้าค่าย...ก็ชะงัก ไม่กล้าเข้าปะทะทัพตองอู
แม้แต่ตอน"จะเด็ด"ติดคุกเมืองแปร แล้วบอกให้"ตะเบงชะเวตี้"รอเวลาที่จะมี"ลมพัด"ก็เหมือนตอน"ขงเบ้ง" เตรียมออกเรือไป"ขอธนู"จากโจโฉ...
หรือกลยุทธ์"ยืมหลังขุนวัง" กระทั่ง"ขอศีรษะ10ทหารตองอู" เพื่อหลอกข้าศึก ก็"ลอก"มาจาก"สามก๊ก"แท้ๆ...
จาเลงกะโบ เนงบา สีอ่อง...ก็ไม่ต่างจาก จูล่ง กวนอู และเตียวหุย...3 ทหารเอกของขงเบ้งและเล่าปี่
"บุเรงนอง" ปะคนทั้ง 3 เมื่อก่อเหตุทำร้ายคนของสอพินยาเมื่อครั้งยังชื่อ"จะเด็ด"ในสถานะคนรับใช้ขุนวังทกะยอดิน จึงหนีไปบอกและถูกมหาเถรกุโสดอ อาบว่านวิเศษจนผิวคล้ำก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น"มังฉงาย" พร้อมส่งตัวไปฝึกดาบกับเพื่อนสนิทนาม"ตะคะญี"ครูดาบชาวกะเหรี่ยง
เป็นการส่งไปเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่อง"เพลงดาบ" ที่จะเด็ดยังไม่แกร่ง เพราะที่ผ่านมา เจ้าตัวเรียนรู้เพียง"เพลงทวนบนหลังม้า"จากมหาเถร
ที่สำนักดาบกะเหรี่ยง ตะคะญี มี"ศิษย์รัก" 3 คน
คนแรกก็คือ จาเลงกะโบ บุตรชายรูปหล่อของครูดาบ คนต่อมาคือสีอ่อง เจ้าหนุ่มผู้ไม่ค่อยพูดจา และเนงบา หนุ่มร่างใหญ่ ผมแดงตาแดง
ทั้ง 3 คนร่วมกับจะเด็ดลุยรบทุกเมือง และเมื่อจะเด็ดเถลิงยศเป็น"บุเรงนองทกยอดิน" ก็แต่งตั้งเพื่อนตายทั้ง 3 คนเป็นขุนพลของตองอูในเวลาต่อมา โดย...
จาเลงกะโบ "..ร่างค่อนข้างใหญ่สมชาย หว่างคิ้วสักเป็นยันต์ไขว้เหมือนรูปอุณาโลม นัยน์ตาเหลืองเข้มประหนึ่งตาเสือ.." ได้รับการแต่งตั้งเป็น นายกองคชโยธา (ทัพช้าง)
เนงบา "...ร่างใหญ่เสมอเอาคนสองคนมาปั้นรวมกัน อกและหลังสักจนเกือบไม่มีที่ว่าง ตาและผมแดง ไว้เคราหยิกเป็นก้อนติดคาง..." เป็นนายกองปัตตานึก (ทัพเดินเท้า)
สีอ่อง "..รูปละม้ายคล้ายกระบอกข้าวหลาม รอยสักมีเพียงที่ชายโครงสองข้าง เสียงเจรจาดูสงบเสงี่ยม.."เป็นนายกองอัศวานึก (ทัพม้า)"
ทั้ง 3 คน มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันในบั้นปลาย
"จาเลงกะโบ" ผงาดขึ้นเป็นขุนพลคู่ใจของจะเด็ด เพราะความสุขุมและเก่งกล้า พร้อมมีครอบครัวที่มีความสุขกับ"ปอละเตียง" ที่จะเด็ดสู่ขอและจัดงานวิวาห์ให้ระหว่างยกทัพกลับจากเมาะตะมะ
"สีอ่อง" เจ้านายกองม้าผู้หาญกล้าและเงียบเชียบ ก็ใช้ชีวิตในสถานะขุนพลประจำเมืองแปร คู่กับครูดาบตะคะญี
ส่วน"เนงบา" หนุ่มใจร้อนร่างใหญ่ คือคนที่น่าสงสารที่สุด เพราะไปหลงรักกันทิมา แต่นางไม่รักเพราะมอบใจให้จะเด็ด เนงบาจึงหนีทัพก่อนจะมาต่อสู้ตามหน้าที่และเสียชีวิตพร้อมสั่ง"ไม่ขอเห็นหน้าบุเรงนองด็ด" ทำให้บุเรงนองต้องกราบศพที่นอนคว่ำเพื่อรักษาสัตย์ของเนงบา
ความน่าสงสารของเนงบา ปรากฏในเพลง"เนงบาผู้ปราชัย" ซึ่งขับร้องโดย วิเชียร ภู่โชติ ที่แต่งคำร้อง-ทำนอง โดย ศักดิ์ เกิดศิริ
ข้อความจากเวบ
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=263090
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
23 พฤศจิกายน 2024, 09:35:AM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: บทเพลงเพื่อการเรียนรู้ (อ่าน 2906 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: