ขอบคุณภาพจาก Google ครับ
กุหลาบขาวเคียงวางข้างเขนย
ความคุ้นเคยทรวงในจากใจเหงา
ฝากกลอนอุ่นละไมให้บรรเทา
ในคืนเศร้าสายลมห่มวสันต์
จึงฝากมอบตอบถ้อยร้อยกานท์หนึ่ง
รำพันถึงดวงกมลคนช่างฝัน
อย่าเหนื่อยล้าแหนงหน่ายสายสัมพันธ์
จงคงมั่นปรารถนาอย่าอาลัย
อยากบอกว่าแห่งนี้ที่พำนัก
เป็นที่พักดวงกมลคนอ่อนไหว
อยากบอกว่าหากต้องเหงาเศร้าวันใด
คนเคยไกลตอบถ้อยร้อยกวี
กลอนแห่งฝันแนบใจในความเหงา
หวานปนเศร้าเคล้าสลักอักษรศรี
ท่ามกลางคืนวสันต์จงฝันดี
ปลอบใจที่เสียขวัญเมื่อวันวาน
แม้กานท์กลอนไม่หวานการกระซิบ
ใจกระพริบบรรเลงเพลงประสาน
ให้คลายโศกหายเศร้าเคยร้าวราน
เมื่อกาลผ่านปรารถนาอย่าอาทร
ให้ความฝันงดงามตามใจภักดิ์
ในความรักที่เยือนเหมือนดั่งก่อน
ฝากกุหลาบคลายเหงายามเข้านอน
ให้ขวัญอ่อนจงหลับกับ..ฝันดี...
รการตติ
กุหลาบขาววางเรียงเคียงคู่ขวัญ
เหมือนดั่งจันทร์ คู่ฟ้า พาสุขศรี
ไอละมุน อุ่นทรวง ห้วงราตี
ในคืนที่ ลมหวน ครวญคะนึง
ยินถ้อยปลอบ ตอบกานท์ ดุจสาส์นรัก
รำพันภักดิ์ สุดา ว่าคิดถึง
มอบแด่คน ช่างฝัน ผ่านรำพึง
ด้วยคำซึ้งให้ภิรมย์ สมดวงแด
เพียงวลี ที่กล่าว ว่าเฝ้าห่วง
ซาบซึ้งทรวง ไฉน หทัยแข
ขอบคุณคุณ ยาใจ หมายดูแล
คนพ่ายแพ้ ชะตายังฝ่าฟัน
กลอนแห่งฝันวันที่ ฤดีเหงา
ขอรับเอา คำปลอบ มอบสุขสันต์
ท่ามราตรี ไรแสง แห่งดวงจันทร์
เธอเปรียบแสง ตะวัน อันแจ่มใจ
ทุกสำนวน ชวนให้ ใฝ่ฝันหา
แม้นทิวา กระจ่าง สว่างไสว
ยังคงเฝ้า ออดอ้อน สะท้อนใน
ด้วยอาลัย วลี ที่อาทร
ดุจบทเพลง บรรเลงร่าย จากปลายสรวง
ดุจเดือนดวง เด่นประกาย ปลายสิงขร
ดุจน้ำทิพย์ ชโลมมั่น ขวัญบังอร
ดุจคำพร หยาดฟ้า คราพร่างพรม....
"สุนันยา"