แว่วเจรียงเสียงใจจากไพรสณฑ์
ประดุจมนต์วนเวียนเพียรเฉลย
วอนใครหนึ่งพึงรู้เป็นคู่เชย
ร่วมเขนยเคยฝันเมื่อวันวาน
ในบางคราวร้าวรอนบทกลอนรัก
เขาทอถักทักทายหมายประสาน
จึงหลงรมย์คมคำฉ่ำสราญ
วาดวิมานผ่านฟ้าวิวาห์ทอง
จนเลยล่วงห้วงกาลที่หวานหอม
คำหว่านล้อมกล่อมขวัญก็พลันหมอง
เผยคู่แท้แลหาน้ำตานอง
อกกลัดหนองมองเห็นความเป็นไป
พอเถิดพอ..ขอจงโปรดสงสาร
ปลดบ่วงมารผลาญพร่าเคยสาไถย
เก็บถ้อยรักถ้อยลวงจากห้วงใจ
ตัดเยื่อใยให้หมด..อย่าจดจำ
ประดุจมนต์วนเวียนเพียรเฉลย
วอนใครหนึ่งพึงรู้เป็นคู่เชย
ร่วมเขนยเคยฝันเมื่อวันวาน
ในบางคราวร้าวรอนบทกลอนรัก
เขาทอถักทักทายหมายประสาน
จึงหลงรมย์คมคำฉ่ำสราญ
วาดวิมานผ่านฟ้าวิวาห์ทอง
จนเลยล่วงห้วงกาลที่หวานหอม
คำหว่านล้อมกล่อมขวัญก็พลันหมอง
เผยคู่แท้แลหาน้ำตานอง
อกกลัดหนองมองเห็นความเป็นไป
พอเถิดพอ..ขอจงโปรดสงสาร
ปลดบ่วงมารผลาญพร่าเคยสาไถย
เก็บถ้อยรักถ้อยลวงจากห้วงใจ
ตัดเยื่อใยให้หมด..อย่าจดจำ
ฤๅความหวานซ่านซ่ากลับปร่าขม
ฟังคารมตรมครวญของนวลขำ
โอ้น้องน้อยละห้อยจิตต์พิษระกำ
ด้วยรักช้ำย้ำวิญญาณ์ให้อาดูร
จะรู้ไหมใครกันคนนั้นรัก
ยากหาญหักผลักไสอาลัยสูญ
เพราะรักนั้นล้ำเลิศควรเทิดทูน
ด้วยจำรูญพูนพิพัฒน์วัฒนา
ควรคะนึงถึงวันสัมพันธ์ชื่น
เคยระรื่นคืนจำเรียงเคียงเชษฐา
เฝ้าถนอมกล่อมดวงจิตต์สู่นิทรา
หลายทิวาราตรี...ฤดีเอย
ฤๅตัดขาด...สวาทสิ้นแม้กลิ่นรส
ฤๅตัดหมด...จดจำเคยพร่ำเผย
ฤๅตัดซึ้ง...คะนึงหน่ายเคยก่ายเกย
ฤๅตัดเลย...เชยสัมผัสที่รัดรึง.../
บูรพาท่าพระจันทร์