เอาละหว่าตอบอีกทีว่าเป็น "ฆ้อง"
จากหนึ่งโมงถึงสองปองยันห้า
โมงที่หกไม่มีไม่เคยมา
ที่ถูกด่าคงโดนย่ำตอนนั้นเอย
จากหนึ่งโมงถึงสองปองยันห้า
โมงที่หกไม่มีไม่เคยมา
ที่ถูกด่าคงโดนย่ำตอนนั้นเอย
http://nokbindeaw.wordpress.com/2008/07/15/%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%87-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1-%E0%B8%95%E0%B8%B5-%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B3-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%A5/
นี่คือลิงค์ประกอบคำอธิบายครับ การตีฆ้องบอกเวลาในสมัยโบราณ ตอนเช้า จะตีตั้งแต่ 7:00 ถึง 11:00 โดยตอน 7:00 น. จะตี 1 ครั้ง เรียกว่า 1 โมง เพิ่มจำนวนไปจนถึงเวลา 11:00 ตี 5 ครั้ง คือ 5 โมง เรียกว่าเวลาเพล พอถึงตอนเที่ยงไม่ตี เรียกว่า เวลาเพล จากนั้นก็เริ่มใหม่ในเวลา 13:00 - 17:00 ตีตั้งแต่ 1 ที ถึง 5 ที เรียกว่า บ่ายหนึ่งโมง ถึง บ่ายห้าโมง หรือที่ปัจจุบันนิยมเรียกว่า ห้าโมงเย็น พอถึง 18:00 จะไม่ตี แต่ใช้วิธีรัวฆ้อง ที่เรียกว่า "ย่ำฆ้อง" แทนครับ แล้วเรียกเวลาช่วงนั้นว่า "ย่ำค่ำ" ด้วยเหตุนี้ การตีฆ้องจึงเดินไปได้แค่ 5 ก้าว แล้วต้องเริ่มใหม่ทุกครั้ง