ขอบคุณภาพจาก Google ครับ
ฟาง..รำพัน
ต้นข้าวที่แห้งกรัง
คือพลังที่ออกรวง
ตากแห้งแล้วมัดพวง
รุ่งอรุณเป็นหุ่นฟาง
ฟ้ารุ้งทุ่งว้างเวิ้ง
เหมือนหลงเหลิงระเริงทาง
แดดจ้าต้นกล้าวาง
ตะวันพลบก็กลบดิน
เธอไม่เคยเป็น หุ่นฟางยืนกางแขน
ฟางสิแทนหุ่นฅนจนผันผิน
เธอนั้นมีเลือดเนื้อเจือใจจินต์
ฟางถวิลฝันใฝ่ใช่ไล่กา
เธอนั้นเดินไปไหนได้ดังหวัง
ฟางยืนทั้งบอดใบ้ไร้กังขา
เธออาจมีร่างกายเดินไปมา
ฟางไร้ตารื่นรมณ์การชมวิว
เธอมีหูฟังเสียงเคียงอ้อนออด
ฟางตาบอดไร้ปากฝากท้องหิว
เธอมีเสื้อสวยใส่ใช่ขี้ริ้ว
ฟางหวังนิ้วสวมแหวนแทนสายรุ้ง
เธอนั้นมีหัวใจเอาไว้เต้น
ฟางอยากเห็นหัวใจอันหมายมุ่ง
เธอยึดมั่นความเชื่อเพื่อผดุง
ฟางกลางทุ่งหวังที่มีชีวิต
เธออาจมีหัวใจในวิญญาณ
ฟางรอปราณหายใจใต้ดวงจิต
เธอนั้นมีความรู้สึกการนึกคิด
ฟางขอมิตร ฝากไมตรีก็ดีใจ
ฟางรอคอยวิญญาณผ่านท้องทุ่ง
ฟางหมายมุ่งรอรับใช่หลับใหล
ฟางยังคงอ้าแขนแทนสายใย
ฟางทำได้เพียงเท่านี้...แหละที่รัก♥
รการตติ
“อยากเป็นเพียงหุ่นฟาง”
เพราะไม่เคยเป็น ฟางยืนกางแขน
มิอาจแทน สิ่งใด ให้ประจักษ์
ด้วยเลือดเนื้อเจือจินต์ ถวิลภักดิ์
จึงตระหนัก ทุกข์ท้อ ทรมาน์
แม้นว่าเดินไปไหนได้ดังหวัง
แต่ยากยั้ง เรื่องราว เศร้าหนักหนา
มีร่างกาย ได้เพลิน เดินไปมา
แต่ไร้ค่า ยิ่งกว่าฟาง ที่กลางไพร
แม้นซึ่งเสียง เพียงพร่ำ ย้ำอ้อนออด
คนใจบอด หยอดคำ ทำหวั่นไหว
เจ็บกับการ เมินหมาง แบบตั้งใจ
ฟางรู้ไหม ว่าฉัน ต้องซานซม
ฟางไม่มี หัวใจ คงไม่รู้
ความอดสู ปวดร้าว คราวขื่นขม
แสนสาหัส เพียงใด ในอารมณ์
ถูกทับถม หม่นไหม้ ในชีวิต
มีร่างกาย เหมือนไร้ วิญญาณ์แฝง
สิ่งเคลือบแคลง มากมาย ในดวงจิต
ด้วยสำนึก ตรึกฤดี มีความคิด
ดั่งถูกริด สิทธิ์หวง ณ บ่วงมาน
อยากเป็นเพียง หุ่นฟาง กลางท้องทุ่ง
มองสายรุ้ง โค้งขอบ มอบประสาน
น้ำค้างพรม ลมรื่น ชื่นสราญ
ไม่ต้องรับ รสหวาน อันหลอกลวง
“สุนันยา”
เพราะไม่เคยเป็น ฟางยืนกางแขน
มิอาจแทน สิ่งใด ให้ประจักษ์
ด้วยเลือดเนื้อเจือจินต์ ถวิลภักดิ์
จึงตระหนัก ทุกข์ท้อ ทรมาน์
แม้นว่าเดินไปไหนได้ดังหวัง
แต่ยากยั้ง เรื่องราว เศร้าหนักหนา
มีร่างกาย ได้เพลิน เดินไปมา
แต่ไร้ค่า ยิ่งกว่าฟาง ที่กลางไพร
แม้นซึ่งเสียง เพียงพร่ำ ย้ำอ้อนออด
คนใจบอด หยอดคำ ทำหวั่นไหว
เจ็บกับการ เมินหมาง แบบตั้งใจ
ฟางรู้ไหม ว่าฉัน ต้องซานซม
ฟางไม่มี หัวใจ คงไม่รู้
ความอดสู ปวดร้าว คราวขื่นขม
แสนสาหัส เพียงใด ในอารมณ์
ถูกทับถม หม่นไหม้ ในชีวิต
มีร่างกาย เหมือนไร้ วิญญาณ์แฝง
สิ่งเคลือบแคลง มากมาย ในดวงจิต
ด้วยสำนึก ตรึกฤดี มีความคิด
ดั่งถูกริด สิทธิ์หวง ณ บ่วงมาน
อยากเป็นเพียง หุ่นฟาง กลางท้องทุ่ง
มองสายรุ้ง โค้งขอบ มอบประสาน
น้ำค้างพรม ลมรื่น ชื่นสราญ
ไม่ต้องรับ รสหวาน อันหลอกลวง
“สุนันยา”