ขอบคุณภาพจาก http://www.siamfishing.com
ขอบคุณ ความคุ้นเคย ที่เอ่ยอุ่น
ช่างละมุน มากมั่น กับวันหวัง
ดุจแสงเช้า ชุ่มกาย ผู้พ่ายพัง
ยามยืนนั่ง ในหนาว และร้าวราน
สองมือมี ไมตรี ที่โอบเอื้อ
ด้วยจุนเจือ จากใจ ไหลรินผ่าน
อักษราเรือง พรแห่ง กลอนกานท์
จะผสาน ซึ่งโศก คราโลกลวง
เพื่อนรัก..............
ต่างตระหนัก พิษภัย อันใหญ่หลวง
ยามใจคน หม่นไหม้ ไฟสุมทรวง
ช่างหนักหน่วง เหนื่อยล้า น้ำตาคลอ
คืนมืดนั้น ยืดยาว กว่าคราวก่อน
มันบั่นทอน ทาบคน ที่ทนท้อ
จ่อมจม ระงมเหงา และ เฝ้ารอ
จะชุบช่อ ชีวิต สู่ทิศใด
...
คืนความหวัง ผู้ยังโศก ในโลกลึก
ผู้ผนึก น้ำตา มาฝันใฝ่
พยายาม หยัดยืน อย่างฝืนใจ
กับโลกไร้ ขอบเขต เจตนา
เพื่อทิศทาง วางวาด โดยธาตุแท้
สู่กระแส สร้างตน อย่างคนกล้า
ลุกลำดับ ขับขาน กาลเวลา
แล้วทวงค่า คนจริง จะยิ่งยืน
ธรรมดา