(ดินมาชวน หาประสพการณ์ ในกรุงกันนะ)
แต่แปลกจัง ไม่เอาตัง หันหลังกลับ
ให้เปลี่ยนทรัพย์ เป็นกระดาษ เอาการ์ดให้
ดูเอาสิ ตังก็มี ใช้ไม่ได้
น่างงไหม รูดกระดาษ การ์ดแทนตัง
ผู้หญิงดินๆ
ย่างเดือนสี่ มีนา ฟ้าขาดฝน
ทุกผู้คน ไม่มีกิน มองสิ้นหวัง
ข้าวที่เก็บ ก็ชะลอ พอประทัง
เลี้ยงชีพยัง กันอด หมดชีวา
พับผ้าเหลือ เสื้อใน ใส่ถุงปุ๋ย
ออกบ้านลุย ไปตาย วายดาบหน้า
ละผู้เฒ่า เฝ้าบ้าน อยู่ล้านนา
เที่ยวเสาะหา เงินงาน แถวชานเมือง
ดูป้ายจ้าง สร้างงาน ตามบ้านตึก
รองเท้าสึก สายกิ่ว กัดนิ้วเขื่อง
ถูกดุด่า ว่าวุ่น ตาขุ่นเคือง
บ้างหาเรื่อง เหม็นลาว ด้าวแดนไกล
แสนลำบาก ลากเท้า เข้าในวัด
กราบนมัส หลวงพ่อ ขออาศัย
วอนเมตตา อาหารเพล คนเข็ญใจ
ศาลาให้ พักผ่อน นอนค่ำคืน
หัวหนุนแขน แทนหมอน ก่อนหลับไหล
นึกขึ้นได้ มีเพื่อน เหมือนฝันตื่น
เป็นอาเสี่ย เมียมี เมื่อปีซืน
คงหยิบยื่น งานทำ ด้วยน้ำใจ
ยามเช้าตรู่ ผู้คน เดินล้นหลาม
เอ่ยปากถาม เพื่อนรัก รู้จักไหม
เขาส่ายหน้า อ้าปาก หันจากไป
คนอะไร ไม่รู้จัก...ศักดิ์ช่างซอ
รพีกาญจน์ 59
ทุกผู้คน ไม่มีกิน มองสิ้นหวัง
ข้าวที่เก็บ ก็ชะลอ พอประทัง
เลี้ยงชีพยัง กันอด หมดชีวา
พับผ้าเหลือ เสื้อใน ใส่ถุงปุ๋ย
ออกบ้านลุย ไปตาย วายดาบหน้า
ละผู้เฒ่า เฝ้าบ้าน อยู่ล้านนา
เที่ยวเสาะหา เงินงาน แถวชานเมือง
ดูป้ายจ้าง สร้างงาน ตามบ้านตึก
รองเท้าสึก สายกิ่ว กัดนิ้วเขื่อง
ถูกดุด่า ว่าวุ่น ตาขุ่นเคือง
บ้างหาเรื่อง เหม็นลาว ด้าวแดนไกล
แสนลำบาก ลากเท้า เข้าในวัด
กราบนมัส หลวงพ่อ ขออาศัย
วอนเมตตา อาหารเพล คนเข็ญใจ
ศาลาให้ พักผ่อน นอนค่ำคืน
หัวหนุนแขน แทนหมอน ก่อนหลับไหล
นึกขึ้นได้ มีเพื่อน เหมือนฝันตื่น
เป็นอาเสี่ย เมียมี เมื่อปีซืน
คงหยิบยื่น งานทำ ด้วยน้ำใจ
ยามเช้าตรู่ ผู้คน เดินล้นหลาม
เอ่ยปากถาม เพื่อนรัก รู้จักไหม
เขาส่ายหน้า อ้าปาก หันจากไป
คนอะไร ไม่รู้จัก...ศักดิ์ช่างซอ
รพีกาญจน์ 59