คนอมตะ ๒๕. พรเพชร เหมือนศรี
ฉันกับแม่เคยมีที่ทำกิน
เป็นแผ่นดินสินทรัพย์นับคาดหวัง
ทำไร่นาข้าวงามตามกำลัง
พอประทังพอเพียงเลี้ยงชีพควร
ฉันกับแม่เจอฟ้าผ่าในหน้าแล้ง
ทางการแจ้งแหล่งประเภทเขตสงวน
“ทุ่งเขาพระ” ที่เลี้ยงสัตว์จัดจำนวน
ห้ามรบกวนครอบครองจับจองเอา
ฉันกับแม่แค่ชาวนาผู้ยากไร้
มีเพียงใจไม่หวั่นไหวไม่ขลาดเขลา
ปี ๑๑ ร้องเรียนเพียรผ่อนเบา
หวังพวกเขาเมตตาหาเหตุใด
ฉันกับแม่แพ้ทางข้อข้องขัด
การรังวัดจัดไว้ไม่โปร่งใส
หลอกชาวบ้านลงนามตามกันไป
สุดวิสัยชาวเรารู้เท่าทัน
ฉันกับแม่จากกันในวันหนึ่ง
แม่ผู้ซึ่งสู้ทนจนอาสัญ
หน่วยงานนี้งานโน้นโยนกลองกัน
จนผ่านผันผ่านนายกฯถึงสี่คน
ปี ๔๗ ฉันยังคงส่งจดหมาย
ยังมั่นหมายยุติธรรมนำส่งผล
กลับได้รับความตายจำหน่ายตน
เมืองสินบนปล้นชีวิตปลิดชีพเรา
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์
พรเพชร เหมือนศรี
ชื่อเดิม พรพิศ เหมือนศรี เกิด ๒๒ กรกฎาคม ๒๔๘๐ ถูกลอบทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตเมื่อ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ เป็นชาวนาผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกินจนได้รับรางวัลนักสิทธิมนุษยชนดีเด่นในปี ๒๕๓๑ เธอใช้เวลากว่าครึ่งค่อนชีวิตในการต่อสู้กับอำนาจรัฐและระบบราชการเพื่อรักษาที่ดิน มรดกชิ้นสุดท้ายที่พ่อกับแม่เธอทิ้งไว้ให้
การต่อสู้เริ่มตั้งแต่สมัยพ่อของเธอ นายพิม เหมือนศรี เมื่อรู้ว่าที่ดินตนซื้อมาและทำไร่ทำนาจนราชการยกให้เป็นไร่ตัวอย่าง ถูกประกาศให้เป็นที่ดินสงวน หวงห้ามสำหรับเลี้ยงสัตว์ (เขตสาธารณะเลี้ยงสัตว์ทุ่งเขาพระ) ซึ่งในการทำรังวัดนั้น ดำเนิน การอย่างไม่โปร่งใส และเจ้าหน้าที่บังคับให้ชาวบ้านลงนามในเอกสารที่ไม่มีข้อความใดๆ
จดหมายร้องเรียนฉบับแรก เขียนขึ้นเมื่อวันที่ ๑๔ พ.ค. ๒๕๑๑ โดยนางหนู เหมือนศรี แม่ของพรเพชร การร้องเรียนได้ผ่านกระบวนการราชการมากมาย จากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่ง ย้อนกลับไปกลับมา ผ่านนายกรัฐมนตรีถึงสี่คน จนกระทั่ง ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗ พรเพชรส่งจดหมายถึงนายกสภาทนายความ เป็นการส่งเอกสารเพิ่มเติม เพื่อให้ช่วยส่งเรื่องพิพาทกรณีที่ดิน ขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นจดหมายร้องเรียนฉบับสุดท้ายของเธอ ก่อนจะถูกลอบทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตในอีก ๑๙ วันต่อมา รวมเวลาต่อสู้ ๓๖ ปี
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
23 พฤศจิกายน 2024, 10:35:PM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: คนอมตะ (อ่าน 22370 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: