แสงแห่งความรักที่ดับตัวลง
.....
ในค่ำคืนที่แสงแห่งเทียนดับ
ดวงดาววาววับเกินจับต้อง
หมอกหนาฝ้าเกล็ดเป็นเม็ดฟอง
ลมโชยโรยล่องเต็มช่องกระจก
.....
ความรู้สึกอีกวันที่มันเปลี่ยน
คอยแวะเวียนถามไถ่อยู่ในอก
มองหากันไม่เจอจนเพ้อพก
ฝนไม่ตก! แต่สะทกสะท้าน
.....
เพราะยังไม่เข้าใจในตัวเอง
ค่ำคืนอันวังเวงเสียงเพลงผ่าน
ทำไมต้องเหน็บหนาวและร้าวราน
หรือต้องการมาเห็นความเย็นชา
.....
ยังมีอีกหลายคนบนผืนโลก
อาจจะโชคดีหน่อยเมื่อคอยหา
แต่ความจริงเปล่าว่างร้างสัญญา
นาฬิกาชีวิตทิศทางเดียว
.....
เปิดหน้าต่างมองดวงจันทร์
จุดแสงขึ้นพร้อมกันบนทางเปลี่ยว
เป็นสีสันแห่งวันอันซีดเซียว
เพียงแค่เสี้ยวเศษหนึ่งก็พึงพอ
.....
แสงแห่งความรักที่ใกล้ดับตัวลง
สุดท้ายคงหรี่หรุบแล้ววูบต่อ
ปิดความฝันวิมานแห่งการรอ
ที่ไร้แสงสาดทอพอ-พอกัน..!!
.....
ภาพจาก fickr.com
แสงเทียน เวียนวน จนด่าวดับ
ความมืดกลับ ปกคลุม รุมเร้าฉัน
ช่างมืดมน หนทาง อ้างว้างพลัน
จำจะหัน หาใคร ว่าไม่มี
เปรียบดั่งแสง หิ่งห้อย ดูด้อยค่า
ขับแสงจ้า แจ่มจำรัส รัศมี
ตัวกระจ้อย น้อยนิด ด้วยฤทธี
อยู่ในป่า วนาลี มิโรยรา
เปิดหน้าต่าง มองฟ้า คราหมองหม่น
เห็นเมฆหมอก ลอยวน บนเบื้องหน้า
ลมกรรโชก โศกเศร้า เหงาอุรา
คราบน้ำตา บนเปื้อน เลือนสองปรางค์
เหม่อมองดาว พราวแสง แรงระยับ
เมฆลอยทับ ลับลา นภากว้าง
ฤทัยหม่น เจ็บแปลบ แทบวายวาง
รักมาร้าง แรมร้าว สุดหนาวจินต์
พันทอง