"พี่มะสะแป"
กลอนดีมาสาระ ว่ากันว่า กลอนของพี่มะสะแป ตาดีได้ตาร้ายเสีย อ่านมาตั้งนานยังจับจุดไม่ได้
ทำให้อัสดงเสียโอกาสมากในการเรียนรู้กลอนของพี่ น้อยบทมากที่อัสดงจะไปตอบต่อพี่มะสะแปได้ ยากส์
"พี่จ้องจะเรียงคำ"
กลอนพี่จ้องจะออกแนวหวานรักโรแมนติก แต่ไม่อาจหวานกินใจน้องดงได้ เลยเฉยๆ
แล้วเดี๋ยวนี้พี่แกก็หาย ไม่รู้ไปจ้อง จะเรียงคำแถวไหน พี่แกก็ถอยไปจดๆจ้องๆอย่างเดียวเลย
"ตะวันฉาย"
เจ้าแม่กลอนเศร้าเหงาได้ทุกอารมณ์ อกหักมันทั้งชาติ สงสัยจะเป็นญาติพี่ต๋อย อ่อยเหยื่อ (พี่ต๋อย นามปากกา "ฉันเอง")
"แป้งน้ำ"
อ่านกลอนน้องแป้งน้ำที่ไร คิดว่าจิตกรมาเขียนกลอน ออกแนวระบายซะมากกว่า เห็นมาที่ไรระบายอย่างเดียวเลย
เก็บกดอารายย หรือป่าวค่ะ คุงน้องขา มาระบายที่ใจพี่ดงก็ได้นะ
"บอม ซอง ดุ๊ก"
บทกลอนกวี 18 อรหันต์ เหนือคำบรรยาย พูดมากอาจโดนสวด
"บัณฑิตย์เมืองสิงห์"
ท่านก็เป็นบัณฑิตสมชื่อ กลอนท่านแต่งให้ผู้รู้เท่านั้น แปลตรงตัวเลยแล้วกัน
"สียะตรา"
สร้างบาดแผลในอารมณ์ของคนอ่าน กำลังจะบรรเจิด มิทันไร ก็บรร......จบ ซะแล้ว
ถ้าเปรียบก็เหมือนนักเล่นบันจี้จั้มพ์ โดดพรวดเดียวสุดสายเลย วันหลังขอยาวหน่อยนะคะ
อยากนั่งรถไฟหวานเย็น บิ้วอารมณ์ไปเรื่อยๆ
"ธันวาคม"
กลอนของท่านอ่านแล้วรู้สึกสบาย ให้ฉ่ำชื่น เสียดายปีหนึ่งมีธันวาคมเพียงครั้งเดียว
พี่แกเลยหายจ้อย สงสัยคงมีให้อ่านปีละครั้งละมั้ง (ก็ยังดีกว่าลุงเว๊บนิดหนึ่ง) ยังรออ่านนะคะ ท่านธันวาคม
"คุณเพรางาย"
อ่านงานที่ไรแล้วเหมือนเข้าไปอยู่ในห้องเรียนทุกที (ชอบนะเนี่ยได้เป็นเด็กอีกที)
"รัตติกาล"
อ่านที่ไรเหมือนอยู่ห้วงอวกาศ เหมือนได้ทิ้งตัวสบายๆ ปล่อยกายปล่อยใจไปกับคุณ
"อ้อนจันทร์"
กลอนก็อ้อนสมชื่อ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้หนีไปอ้อนแถวดาวพฤหัส หรือ ดาวเสาร์ อิอิ จำไม่ได้
รอจนกว่าจะมีคนเอางานมาให้ทำ จะได้เลิกคอมเม้นชาวบ้าน
ผิดพลาดประการใด อัสดง ขอประทานอภัยด้วยนะคะ เคารพรักทุกท่าน