โภไคยในโลกา คือมายาอย่ายึดติด
ไม่แท้แม้ชีวิต อย่าหลงผิดคิดว่าจริง
โภไคยไหลหลั่งล้น โลกา
ล้วนสิ่งหยาบมายา หลอกใช้
คนร่วงหล่มกามา ยึดติด
หลงผิดลวงตาให้ ทรัพย์แท้ของจริง
เรือนร่างต่างสมมุติ ท้ายที่สุดล้วนหยุดนิ่ง
วางวายมิไหวติง ต้องละทิ้งทุกสิ่งไป
เรือนกายงามร่างนี้ สมมุติ
จุดจบมิอาจฉุด หยุดได้
วางวายนั่นท้ายสุด เถ้ากระดูก
ทุกสิ่งต้องทิ้งไว้ ใช่ได้สักอัน
วันคืนฝืนดิ้นรน เคยถามตนสักหนไหม
เคี่ยวขันเพื่ออันใด เอาไปได้หรือไรกัน
วันคืนชีพไป่สิ้น ดิ้นรน
ถามไถ่มิถามตน สักครั้ง
เพื่อใดเล่าพ้องชน เพื่อนมนุษย์
เบียดแข่งไม่ยับยั้ง อวดได้เอาดี
วิวาทขาดสติ ถือทิฐิมิผ่อนผัน
วิถีที่ผูกพัน กลายเป็นทัณฑ์ตามบั่นทอน
วิวาทวาทะโต้ มีดี
ถือทิฐิยโสมี อวดโอ้
ผ่อนผันบ่ายหน้าหนี วิถีถูก
ทัณฑ์โทษเจ็บร้อนโร่ กลัดกลุ้มบั่นทอน
กังวลจนป่วยไข้ แล้งน้ำใจไม่โอนอ่อน
คือภาพบาปถาวร คอยกัดกร่อนรอนปัญญา
กังวลจนเจ็บไข้ เจ็บใจ
น้ำขอดแห้งหทัย จิตแล้ง
ขาดผ่อนพักผ่อนใจ โอนอ่อน บาปนา
หนักทุกข์เข้ากลั่นแกล้ง กร่อนสิ้นปัญญา
หันเหียนเปลี่ยนหนทาง ยอมปล่อยวางบ้างเถิดหนา
ขจัดแรงอัตตา สู่ธรรมาอย่าดึงดัน
หันเหทิศเปลี่ยนหลู้ ปล่อยวาง
ปล่อยว่างสู่หนทาง ปลดเศร้า
อัตตามิเจือจาง เร่งขจัด
ตามตัดตัวรุมเร้า สู่ห้วงธรรมา
เพียงอยู่อย่างรู้พอ เลิกจดจ่อต่อโมหันธ์
ปลงได้ใจสุขพลัน ทุกข์สากรรจ์ก็บรรเทา
เพียงระลึกรู้อยู่ เพียงพอ
เลิกคิดใจจดจ่อ ขบเขี้ยว
ปลงได้ข่มใจรอ จิตสงบ
แผลพิษฉกรรจ์งูเงี้ยว เจ็บร้ายบรรเทา
อ่านกาพย์ของคุณสุนทรวิทย์จบปุ๊บ
แล้วเห็นมุมเล่นโคลงฮะ
แต่งเป็นกาพย์ห่อโคลงเสียเลย
ทัน
จิตสงบ พานพบสุข
จิตประอุก ทุกข์ผลาญเผา
มักได้ ไม่บรรเทา
พามัวเมา เฉาชีวี
สกัด ตัดต้นตอ
รู้จักพอ ก็สุขศรี
วิญญู รู้ถ้อยที
แยกชั่ว,ดี ที่กมล
สุนทรวิทย์
จิตประอุก ทุกข์ผลาญเผา
มักได้ ไม่บรรเทา
พามัวเมา เฉาชีวี
สกัด ตัดต้นตอ
รู้จักพอ ก็สุขศรี
วิญญู รู้ถ้อยที
แยกชั่ว,ดี ที่กมล
สุนทรวิทย์