เริงวาริน จินต์คำ นำกระแส
ร่ายลมแปร วรรณยุกต์ ปลุกวาตศิลป์
หนักแน่นเหนือ หินผา ตราแผ่นดิน
เปลวกวิน ลุกโหม โลมเรียงคำ
ดุจหิ่งห้อย น้อยแสง แยงริบหรี่
ดุจแมงหวี่ ชอนไช ใจถลำ
ดุจดั่งหนอน บ่อนผล จนจืดจำ
ดุจกาดำ หลงฝูง สู่ยูงงาม
จึงแปลกแยก แตกคำ ต่ำดังทาส
วิปลาส แผกผิด ติดถ้อยหยาม
หลงในกล จนใจ ในเนื้อความ
หวังพึ่งถาม กวีเอก เฉกครูกลอน
ใช่น้องใหม่ ในบ้าน นานนานโผล่
ใช่จะโอ่ ภาษา มาสลอน
เพียงศิษย์มิ มีครู รู้หลักตอน
จึงมาอ้อน คำหวาน บ้านกลอนไทย
ร่ายลมแปร วรรณยุกต์ ปลุกวาตศิลป์
หนักแน่นเหนือ หินผา ตราแผ่นดิน
เปลวกวิน ลุกโหม โลมเรียงคำ
ดุจหิ่งห้อย น้อยแสง แยงริบหรี่
ดุจแมงหวี่ ชอนไช ใจถลำ
ดุจดั่งหนอน บ่อนผล จนจืดจำ
ดุจกาดำ หลงฝูง สู่ยูงงาม
จึงแปลกแยก แตกคำ ต่ำดังทาส
วิปลาส แผกผิด ติดถ้อยหยาม
หลงในกล จนใจ ในเนื้อความ
หวังพึ่งถาม กวีเอก เฉกครูกลอน
ใช่น้องใหม่ ในบ้าน นานนานโผล่
ใช่จะโอ่ ภาษา มาสลอน
เพียงศิษย์มิ มีครู รู้หลักตอน
จึงมาอ้อน คำหวาน บ้านกลอนไทย
ถึงดั่งเช่น เป็นหิ่งห้อย มิน้อยจิตต์
ถึงแสงนิด ฤทธิ์น้อย ด้อยแขไข
แต่พอเพียง เยี่ยงเรา ย่อมเข้าใจ
มิฝันใฝ่ ให้เกิน เมินเผ่าพงศ์
ดั่งเช่นกลอน สุนทรภู่ ท่านครูสอน
เป็นคำวอน กลอนเตือน มิเลือนหลง
เปรียบความคิด วิทยา ค่าจำนง
ซ่อนบรรจง ลงใส่ เสียในฝัก
เก็บแล้วจำ งำไว้ ให้เหมาะสม
ปิดความคม ไร้สมควร มิด่วนชัก
ครั้นผู้ใด ใจพาล คิดหาญหัก
พลันรู้จัก ปักเชือด ให้เลือดริน.../
บูรพาท่าพระจันทร์