ลมเอื่อยเฉื่อยเฉื่อยฉิว
พัดผ่านผิวพลิ้วชลสินธุ์
แว่วแว่วแจ้วเพลงพิณ
เรื่อยเรื่อยรินยินเปรมปรีดิ์
รวงข้าวพราวเรืองรอง
เหลืองดั่งทองละอองสี
ดาษดื่นชื่นชีวี
พฤกษ์พงพีที่ข้างเคียง
นกกาพากันเกาะ
ใกล้ละเมาะไพเราะเสียง
หลายหลากมากสำเนียง
จำเรียงรับขับกล่อมไพร
เลาะเรียงเคียงกันนี้
ชวนชมชี้มีธารใส
ริกเร้นเห็นรำไร
ปลาหรือไรไม่ทันชม
ปล่อยกายสบายจิตต์
ขับไล่พิษฤทธิ์ขื่นขม
มีเพียงเสียงเพลงพรหม
ดังระงมผ่านลมครวญ .../
บูรพาท่าพระจันทร์
พัดผ่านผิวพลิ้วชลสินธุ์
แว่วแว่วแจ้วเพลงพิณ
เรื่อยเรื่อยรินยินเปรมปรีดิ์
รวงข้าวพราวเรืองรอง
เหลืองดั่งทองละอองสี
ดาษดื่นชื่นชีวี
พฤกษ์พงพีที่ข้างเคียง
นกกาพากันเกาะ
ใกล้ละเมาะไพเราะเสียง
หลายหลากมากสำเนียง
จำเรียงรับขับกล่อมไพร
เลาะเรียงเคียงกันนี้
ชวนชมชี้มีธารใส
ริกเร้นเห็นรำไร
ปลาหรือไรไม่ทันชม
ปล่อยกายสบายจิตต์
ขับไล่พิษฤทธิ์ขื่นขม
มีเพียงเสียงเพลงพรหม
ดังระงมผ่านลมครวญ .../
บูรพาท่าพระจันทร์
ราตรีที่บ้านฉัน
มะลินั้นมันหอมหวน
ปลูกอยู่คู่ลำดวน
กลิ่นเย้ายวนยามต้องลม
เดือนดาวพราวแสงส่อง
จันทร์นวลผ่องมองสุขสม
หรีดร้องก้องระงม
เหมือนชื่นชมภิรมย์จันทร์
หนอนน้อยเกาะกิ่งโมก
ลมพัดโบกโยกไหวสั่น
งันงกตกใจพลัน
กระดึ๊บหนีลี้เกรงภัย
เขียวหวานหมาสุดรัก
เฝ้าฟูมฟักจากผักไห่
นอนกร่างข้างบันได
ตัวมันใหญ่ใจเสาะจริง
ราตรีที่บ้านทุ่ง
ต่างจากกรุงนั้นหลายสิ่ง
สุขใจได้พักพิง
ยามราตรีที่บ้านนา
---สะเลเต---