๐ แล้วซึมซับรับรสบทชีวิต
ด้วยความคิดบรรจงปลงไขขาน
พรุ่งนี้ยังคงก้าวอีกยาวนาน
เฉกกระดังงาบาน..อีกกาลไกล..
อยากมีแขน คล้องอุ่น ไว้หนุนร่าง
ยามอ้างว้าง อาวรณ์ ยามอ่อนไหว
อยากมีใคร คนหนึ่ง ซึ้งจริงใจ
ขอหลับใหล ใต้ไอกลิ่น ถิ่นพะยอม
ไร้คนซับ น้ำตา ผู้อาภัพ
วานลมรับ ขับพลิ้ว ลิ่วโอบล้อม
น้ำตาร่วง ดั่งดวง พวงพะยอม
ขาดน้ำย้อม กลีบโรยร่วง ห้วงแห่งดิน
ขาดคนไกว เปลกล่อม ยามร้อนจัด
ขาดคนพัด ยามร้อน อ้อนถวิล
ขาดคำหวาน ยามพะยอม เจ้าออมกลิ่น
ขาดเสียสิ้น แย้มสรวล ชวนหมองตรม
คงเหลือเศษ ซากใจ ที่ตายด้าน
ฝืนดวงมาลย์ ยามยิ้ม พริ้มแซมขม
อยู่อย่างใจ ที่ปวดร้าว หนาวระบม
ทุกวันตรม ถมทับลง จมบาดาล
จะฝืนยืน อีกครั้ง ทางชีวิต
พรหมลิขิต เขียนข่าว เรื่องกล่าวขาน
ในวันพรุ่่ง รุ่งลืมตา มิช้านาน
จะเปลี่ยนผ่าน หันกลับเดิน เผชิญไป
ยามอ้างว้าง อาวรณ์ ยามอ่อนไหว
อยากมีใคร คนหนึ่ง ซึ้งจริงใจ
ขอหลับใหล ใต้ไอกลิ่น ถิ่นพะยอม
ไร้คนซับ น้ำตา ผู้อาภัพ
วานลมรับ ขับพลิ้ว ลิ่วโอบล้อม
น้ำตาร่วง ดั่งดวง พวงพะยอม
ขาดน้ำย้อม กลีบโรยร่วง ห้วงแห่งดิน
ขาดคนไกว เปลกล่อม ยามร้อนจัด
ขาดคนพัด ยามร้อน อ้อนถวิล
ขาดคำหวาน ยามพะยอม เจ้าออมกลิ่น
ขาดเสียสิ้น แย้มสรวล ชวนหมองตรม
คงเหลือเศษ ซากใจ ที่ตายด้าน
ฝืนดวงมาลย์ ยามยิ้ม พริ้มแซมขม
อยู่อย่างใจ ที่ปวดร้าว หนาวระบม
ทุกวันตรม ถมทับลง จมบาดาล
จะฝืนยืน อีกครั้ง ทางชีวิต
พรหมลิขิต เขียนข่าว เรื่องกล่าวขาน
ในวันพรุ่่ง รุ่งลืมตา มิช้านาน
จะเปลี่ยนผ่าน หันกลับเดิน เผชิญไป
ผู้หญิงดินๆ