กบอยู่ในใต้กะลาคิดว่าเก่ง
เฝ้าพิศเพ่งว่าให้ใครเขาแย่
คิดว่าตนฉลาดปราญช์โดยแท้
เฝ้ารังแกใครเขาว่าเขลาจัง
มิมองฟัาว่ากว้างเหมือนอย่างปราญช์
เลยมักพลาดเพราะตนบนความงั่ง
มองแต่ตนคนดีมีเด่นดัง
จึงได้พลั้งว่าเขาน่าเศร้าใจ
กบเอ๋ยกบไยว่ากล้าพูดนัก
มัวจมปลักใต้กะลาล้าสมัย
โลกเปลี่ยนแปลงแสงสีศิวืไลศ์
เหตุไฉนเจ้ากบไม่พบเจอ
อยากจะเปิดกะลาพากบออก
แล้วได้บอกฟ้ากว้างขวางเสมอ
มองให้ไกลกว่านี้อย่ามีเบลอ
และอย่าเผลออวดเบ่งเก่งผู้เดียว
สล่าผิน
...ใต้กะลา พากบ พบความสุข
มิเจอทุกข์ สุขใจ ในความเปลี่ยว
มิสนนาม ความรัก สลักเกลียว
ไร้ผู้เกี่ยว เฉลียวรั้ง สั่งวกวน...
...นอกกะลา ว่ามี สิ่งแวดล้อม
จริงดีปลอม พร้อมปรับ ความสับสน
เปิดกะลา พากบ เพลินพบยล
เปรียบช่วยคน เจอทาง โลกกว้างไกล...
...ความสุขเกิด เปิดใจ ใฝ่บริสุทธิ์
เจอโชคชม สมมุติ สุดสดใส
เจอโลกลวง ทรวงอาจ แทบขาดใจ
โลกกว้างใหญ่ ใคร่พราง ทางเวทนา...
รัตนาวดี
มิค่อยจะตรงประเด็นของคุณสล่า..อย่าถือสานะคะรัตน์ขออนุญาตจ้า..
ออกกะลา มาตาย น่าอายนัก
โถยอดรัก นักฝัน มากตัณหา
โลกข้างใน ให้สนุก สุขอุรา
วังกะลา หายาก หลากเสบย
ถูกใครเขา เฝ้าหลอก ทิ้งออกมา
ทิ้งชีวา อาสัญ สิ้นกันเหวย
หงายพุงดำ ช้ำฟก นะอกเอย
ด้วยละเลย เชยมาก จากกะลา.../
บูรพาท่าพระจันทร์
โถยอดรัก นักฝัน มากตัณหา
โลกข้างใน ให้สนุก สุขอุรา
วังกะลา หายาก หลากเสบย
ถูกใครเขา เฝ้าหลอก ทิ้งออกมา
ทิ้งชีวา อาสัญ สิ้นกันเหวย
หงายพุงดำ ช้ำฟก นะอกเอย
ด้วยละเลย เชยมาก จากกะลา.../
บูรพาท่าพระจันทร์