ดั่งดินทรายกลายต้นมิพ้นแหล่ง
แม้ปั้นแต่งตัวตนใหญ่ล้นหลาย
ถึงต่อสูงจูงเข็นมิเห็นปลาย
แต่สุุดท้ายทลายรื้อก็คือดิน
ชีวิตหน๋อพอเกิดกำเนิดได้
ตะเกียดตะกายเช้าค่ำร่ำถวิน
ไม่รู้หน่ายหมายมุ่งปรุงชีวิน
คิดผกผินจากดินบินเป็นดาว
ต่างเรียนรู้ลู่ทางก่อร่างฝัน
ขับเคลื่อนฟันเฟืองเดินเผชิญก้าว
ทุ่มแรงใจใส่พลังบินยังดาว
แม้โฉดฉาวดึงดันมิหวั่นกลัว
ทางก็ไกลไปก็ดีหนีก็ช้ำ
ยิ่งถลำกล้ำมายาตาสลัว
ตัวต้องเด่นดังก้องดีต้องตัว
ไม่เห็นหัวผู้ใดในสายตา
สุดท้ายเล่าเจ้านี้ต้องมีดับ
เปลี่ยนคืนกลับร่วงลับดับสังขาร์
ชีพสลายทลายลงร่วงลงมา
วัฏสังสาร์สิ่งนั้นไม่ผันไป
มาแต่ตัวตายไปไปแต่ตัว
ทรัพย์ท่วมหัวพอตายใช้ได้ไหม
จากผืนดินผินโผจนโตไกล
ล้วนดับไขได้เพียงนี้ธุลีดินฯ
จ.รัตติกาล
แม้ปั้นแต่งตัวตนใหญ่ล้นหลาย
ถึงต่อสูงจูงเข็นมิเห็นปลาย
แต่สุุดท้ายทลายรื้อก็คือดิน
ชีวิตหน๋อพอเกิดกำเนิดได้
ตะเกียดตะกายเช้าค่ำร่ำถวิน
ไม่รู้หน่ายหมายมุ่งปรุงชีวิน
คิดผกผินจากดินบินเป็นดาว
ต่างเรียนรู้ลู่ทางก่อร่างฝัน
ขับเคลื่อนฟันเฟืองเดินเผชิญก้าว
ทุ่มแรงใจใส่พลังบินยังดาว
แม้โฉดฉาวดึงดันมิหวั่นกลัว
ทางก็ไกลไปก็ดีหนีก็ช้ำ
ยิ่งถลำกล้ำมายาตาสลัว
ตัวต้องเด่นดังก้องดีต้องตัว
ไม่เห็นหัวผู้ใดในสายตา
สุดท้ายเล่าเจ้านี้ต้องมีดับ
เปลี่ยนคืนกลับร่วงลับดับสังขาร์
ชีพสลายทลายลงร่วงลงมา
วัฏสังสาร์สิ่งนั้นไม่ผันไป
มาแต่ตัวตายไปไปแต่ตัว
ทรัพย์ท่วมหัวพอตายใช้ได้ไหม
จากผืนดินผินโผจนโตไกล
ล้วนดับไขได้เพียงนี้ธุลีดินฯ
จ.รัตติกาล