กลุ่มหมอกลอย เคว้งคว้าง อยู่กลางป่า
คล้ายวิญญาณ์ ภูตพราย กรายหลอกหลอน
ยามโพล้เพล้ มืดมัว ทั่วดงดอน
เสียงสะท้อน ของชะนี คล้ายผีไพร
เดินหลงป่า คนเดียว เปลี่ยวและหนาว
ทุกย่างก้าว เมื่อยเนื้อ เหงื่อไคลไหล
หันมองหา ทิศไหน ไม่เห็นใคร
นึกระไว ไหวหวั่น อกพรั่นพรึง
ภยันตราย หมิ่นเหม่ เวลานี้
จะร้าย,ดี มิอาจ คาดเดาถึง
เสียวสยอง อ่อนจิต คิดคำนึง
ยินเสียงอึ่ง ยังตระหนก ตกฤทัย
พร่ำวิงวอน เทวา โลกานาถ
ลูกนิราศ ถิ่นมา ขออาศัย
ราตรีนี้ นิทรา พนาลัย
โปรดคุ้มภัย เถิดหนา อย่าตัดรอน
จักจั่น จิ้งหรีด กรีดกระชั้น
กล่อมจนฉัน หลับไป บนไม้ขอน
ฝันว่าได้ ประสบ พบบังอร
มาหลับนอน สมสู่ อยู่แนบกาย
ครั้นตื่นขึ้น เช้าตรู่ รู้สึกตัว
สะดุ้งกลัว ขวัญฝ่อ ใจคอหาย
จริงหรือฝัน อัศจรรย์ เหนือบรรยาย
ช่างคลับคล้าย-คลับคลา ว่าเรื่องจริง
เหลียวรอบกาย พิกล ขนลุกซู่
ฉันนอนคู่ ต้นตานี กล้วยผีสิง
มิใช่ขอน ไม้สัก ที่พักพิง
คิดแล้วยิ่ง กริ่งเกรง เร่งจากจร
พลัดหลงป่า รอดตาย ได้เมียผี
แม่ตานี งามอย่าง นางอัปสร
แม้กลับเรือน ราบรื่น คืนนาคร
ยังอาวรณ์ เนืองนิตย์ เหมือนติดใจ
สุนทรวิทย์
คล้ายวิญญาณ์ ภูตพราย กรายหลอกหลอน
ยามโพล้เพล้ มืดมัว ทั่วดงดอน
เสียงสะท้อน ของชะนี คล้ายผีไพร
เดินหลงป่า คนเดียว เปลี่ยวและหนาว
ทุกย่างก้าว เมื่อยเนื้อ เหงื่อไคลไหล
หันมองหา ทิศไหน ไม่เห็นใคร
นึกระไว ไหวหวั่น อกพรั่นพรึง
ภยันตราย หมิ่นเหม่ เวลานี้
จะร้าย,ดี มิอาจ คาดเดาถึง
เสียวสยอง อ่อนจิต คิดคำนึง
ยินเสียงอึ่ง ยังตระหนก ตกฤทัย
พร่ำวิงวอน เทวา โลกานาถ
ลูกนิราศ ถิ่นมา ขออาศัย
ราตรีนี้ นิทรา พนาลัย
โปรดคุ้มภัย เถิดหนา อย่าตัดรอน
จักจั่น จิ้งหรีด กรีดกระชั้น
กล่อมจนฉัน หลับไป บนไม้ขอน
ฝันว่าได้ ประสบ พบบังอร
มาหลับนอน สมสู่ อยู่แนบกาย
ครั้นตื่นขึ้น เช้าตรู่ รู้สึกตัว
สะดุ้งกลัว ขวัญฝ่อ ใจคอหาย
จริงหรือฝัน อัศจรรย์ เหนือบรรยาย
ช่างคลับคล้าย-คลับคลา ว่าเรื่องจริง
เหลียวรอบกาย พิกล ขนลุกซู่
ฉันนอนคู่ ต้นตานี กล้วยผีสิง
มิใช่ขอน ไม้สัก ที่พักพิง
คิดแล้วยิ่ง กริ่งเกรง เร่งจากจร
พลัดหลงป่า รอดตาย ได้เมียผี
แม่ตานี งามอย่าง นางอัปสร
แม้กลับเรือน ราบรื่น คืนนาคร
ยังอาวรณ์ เนืองนิตย์ เหมือนติดใจ
สุนทรวิทย์