** นี่แข็งไปหรือใจเราเริ่มแจ้ง
มองแล้วแทงทะลุจนปรุโปร่ง
เหมือนใครชี้ช่องเด่นเห็นรอยโพรง
ดังใยโปร่งโยงเหตุสังเกตจริง
**หาที่เที่ยงแท้ธรรมชาติชิด
ถูกหรือผิดพร้อมไม่ในทุกสิ่ง
ล้วนเสแสร้งแกล้งล่อก่อเชิงชิง
ดังหนอนดิ่งวิ่งเข้าทรากเน่าโทรม
**น่ารังเกียจยำเกรงต่อเพลงชั่ว
ระเริงรั่วมั่วกามละลามโหม
ที่ถูกควรกลับคำต่ำประโคม
แล้วพลิกโฉมฉ่ำแฉกแลกคารม
**เห็นแล้วชวนสังเวชเหตุทั้งหมด
ไม่ละลดอดอยากหลากผสม
ริษยาอาฆาตดาษอาจม
มิควรชมชิดใกล้แต่ไรมา
**นึกถึงคำควรอยู่ดูจิตตัว
อย่าคบทั่วทันเท่าจิตเราว่า
ล้วนกิเลสเศษพาลต่างผ่านมา
ปิดวาจาปิดร่องช่องกรรมตน ฯ
..........



ยามกิเลสรุกรุมควบคุมยาก
คิดสื่อซากอารมณ์ข่มเหตุผล
รับว่าดีปรีดาพล่าใจคน
ปุถุชนผจญกรรมเป็นจำเลย
รู้ทั้งรู้...แต่ยังยื้อจะถือมั่น
ขาดสะบั้นธรรมานิจจาเอ๋ย
อยากครอบครองว้าวุ่นจนคุ้นเคย
ถูกเปรียบเปรยยิ่งทิฐิ...สติเลือน
ความฟุ้งซ่านของใจยากใครห้าม
ปัญญาล่ามไม่อยู่ดูไม่เหมือน
จิตของตนฉุดไม่ได้ใครจะเตือน
หยุดแชเชือนเมื่อใด?ก็ใจบุญ
ค่อยค่อยลดปลดปลงหลงเรื่องสุข
จิตช่วยฉุกใจสะดุดให้หยุดหมุน
สัมปชัญญะชั่วขณะจะเป็นคุณ
ได้เจือจุนเครื่องเศร้าหมองทั้งสองทาง
กิเลส เครื่องเศร้าหมอง
สติ ระลึกได้
สัมปชัญญะ รู้ตัว
(มิวสิค..ก็รู้แบบ snake snake...fish fish นะคะ.ถนัดแต่ทำทาน..ไม่ค่อยมีสติ-สัมปชัญญะ)