เสียงนกเอี้ยงเจื้อยแจ้วดังแว่วหวาน
บนยอดตาลต้นใหญ่ริมชายป่า
ผสานเสียงไก่ขันจำนรรจา
กล่อมบ้านนาสุขสันต์สวรรค์ไพร (๓๔๕)
ใบข้าวรับลมเย็นพลิ้วเป็นคลื่น
ความสดชื่นเสกสรรชวนฝันใฝ่
กบเขียดร้องรำเพลงครื้นเครงใจ
โน่น...ดอกไม้ภมรเร่เคล้าเกสร(๓๔๖)
ตั๊กแตนบินเพลินกลางเนินหญ้า
บุ้งหนอนป่าร่าเริงใจเคี้ยวใบอ่อน
กิ้งก่าแอบอมยิ้มแกล้งพริ้มนอน
แมลงบินจรมาใกล้คงได้กิน (๓๔๗)
ห้วยน้ำใสวาววับระยับสี
แสงสุรีย์พราวพรายจับสายสินธุ์
ดอกประดู่พราวตาริมวาริน
คละเคล้ากลิ่นโคลนคลุ้ง ณ รุ่งเช้า(๓๔๘)
ตะวันสาดแสงทองลงท้องทุ่ง
กลิ่นหอมฟุ้งชื่นใจจากใบข้าว
ลมระบัดน้ำค้างดูพร่างพราว
ดอกหญ้าขาวแย้มบานตระการตา(๓๔๙)
เด็กทุ่งสุขอุราเมื่อหน้าฝน
รวมเพื่อนพลลูกหลานชาวบ้านป่า
ทั้งหว่านแห ยิงนก และตกปลา
ตามประสาวิถีชนคนพอเพียง (๓๕๐)
บนยอดตาลต้นใหญ่ริมชายป่า
ผสานเสียงไก่ขันจำนรรจา
กล่อมบ้านนาสุขสันต์สวรรค์ไพร (๓๔๕)
ใบข้าวรับลมเย็นพลิ้วเป็นคลื่น
ความสดชื่นเสกสรรชวนฝันใฝ่
กบเขียดร้องรำเพลงครื้นเครงใจ
โน่น...ดอกไม้ภมรเร่เคล้าเกสร(๓๔๖)
ตั๊กแตนบินเพลินกลางเนินหญ้า
บุ้งหนอนป่าร่าเริงใจเคี้ยวใบอ่อน
กิ้งก่าแอบอมยิ้มแกล้งพริ้มนอน
แมลงบินจรมาใกล้คงได้กิน (๓๔๗)
ห้วยน้ำใสวาววับระยับสี
แสงสุรีย์พราวพรายจับสายสินธุ์
ดอกประดู่พราวตาริมวาริน
คละเคล้ากลิ่นโคลนคลุ้ง ณ รุ่งเช้า(๓๔๘)
ตะวันสาดแสงทองลงท้องทุ่ง
กลิ่นหอมฟุ้งชื่นใจจากใบข้าว
ลมระบัดน้ำค้างดูพร่างพราว
ดอกหญ้าขาวแย้มบานตระการตา(๓๔๙)
เด็กทุ่งสุขอุราเมื่อหน้าฝน
รวมเพื่อนพลลูกหลานชาวบ้านป่า
ทั้งหว่านแห ยิงนก และตกปลา
ตามประสาวิถีชนคนพอเพียง (๓๕๐)
ไม่ทันไร สุรา ก็ทำพิษ
สุดจะคิด ติดค่าเหล้า เมาขึ้นเขียง
ส่องสอดส่าย หาลูกหนี้ ผู้หน่ายเนียง
โดนบ่ายเบี่ยง เถียงไม่ตก ถกข้ามวัน (๓๕๕)
บูรพา ฟังแล้ว ให้ปลงจิต
เบื่อจะคิด ติดตาม ให้ขบขัน
หันเข้าสู่ ลู่ธรรม ที่รำพัน
สาละวัน กัณฑ์เทศน์ เป็นคำกลอน (๓๕๖)
อันวงเหล้า เมาครึ้ม สะลึมนัก
จะหนีพัก จากฝูง คนสลอน
จึงหลบหลีก ปลีกผัน ไปสันดร
แม่พันทอง ย่องหลับ ในหับพลัน (๓๕๗)
ด้วยซึ้งซด รสธรรม ที่จำไว้
ครั้นเมื่อลับ แสงไฟ ก็ให้ฝัน
ว่าเดินดง หลงป่า พนาวัน
สะดุ้งเสียง ไก่ขัน พลันกระเตง (๓๕๘)
พ่อมานพ มาพบพาน สะท้านนัก
ใครมาหัก หาญห่ม มาข่มเหง
แม่พันทอง ผ่องผิว จนนิ้วเย็น
เหงื่อกระเซ็น ด้วยร้อนรุ่ม กลุ้มอุรา (๓๕๙)
โอ้ตาเถร เวรกรรม กระทำหนอ
นวลละออ จึงนอนสั่น หวั่นผวา
ด้วยฤทธิ์เหล้า เมาสิ้น กลิ่นสุรา
นอนฝัน พรรณา เป็นคำกลอน (๓๖๐)
อะพุทโธ่ อะพุทธัง กะละมังแตก
อุตส่าห์แหก แหวกหนี ที่สลอน
มาหลบเลี่ยง เบี่ยงหมุน มาหนุนนอน
ยังโดนต้อน กลับวง ก๊งสุรา (๓๖๑)
มารสุรา ท่านยอม ซะที่ไหน
ตั้งสี่คน หนีไป ไกลจริงหนา
มานะมา กลับมา ซิกลับมา
มาร่วมวง สุรา ซะดีดี (๓๖๒)
เหล้ายา ปลาปิ้ง ท่านมีครบ
ท่านอริญชย์ อย่าสบ โอกาสหนี
บูรพา มานพ ไปตามที
ทั้งพันทอง ผ่องฤดี จงรี่มา (๓๖๓)