หนีความอยาก เข้าป่า พนาสนธิ์
หลบผู้คน บ่นให้ ได้ปวดหัว
เดินคนเดียว เปลี่ยวจิต คิดหวาดกลัว
นกกระตั้ว ร้องดัง วังเวงใจ (๓๓๔)
กลางป่าเขา ลำเนาไพร ฤทัยท้อ
จำต้องขอ หลบนั่ง ฟังเสียงไก่
ขันสนั่น ลั่นดง คงเริงใจ
ฟังทีไร ให้หวน ป่วนอุรา (๓๓๕)
ก้าวต่อไป ไม่มี ที่สิ้นสุด
มาสะดุด หยุดนิ่ง ลิงนี่หว่า
มันห้อยโหน โยนตัว กันไปมา
เห็นแล้วน่า สุขนัก อยากเป็นลิง (๓๓๖)
ฝืนใจเดิน ต่อไป ให้สุดป่า
ทั้งเหนื่อยล้า ราโรย โหยเสียยิ่ง
กระหายน้ำ มากมาย คล้ายประวิง
เลยล้มกลิ้ง ทิ้งกาย หมายจะนอน (๓๓๗)
สดุ้งตืน ตกใจ หวั่นไหวทั่ว
มือจับตัว กลัวจริง ยิ่งทอดถอน
โอ้นี่เรา ฝันไป ได้เป็นกลอน
แสนอาวรณ์ ตื่นผวา พาอกตรม (๓๓๘)
พันทอง
ตามความเหงาเข้าป่าพนาสี
หลบหลีกลี้หนีความยามสับสน
เดินลำพังยั้งจิตคิดวกวน
งานหนักล้นบนทางที่หมางใจ(๓๔๑)
กลางดงดานละหานห้วยระทวยท้อ
วังเวงหนอรอทางสว่างใส
เสียงสัตว์ป่าร่าเริงบันเทิงไพร
ช่วยคลายให้ฤทัยผ่อนร้อนกลับเย็น(๓๔๒)
เอ้กอี้เอ้กเสกสดับประทับจิต
กระจิริดพิศเพ่งเล็งยามเห็น
เจ้าไก่ป่าน่าแลดวงแขเพ็ญ
จับมาเป็นต้มข่าน่าลิ้มลอง(๓๔๓)
ยกโถยาสุราเหล้าเอามาตั้ง
วางโต๊ะตั่งนั่งลงก๊งกินถอง
กับแกล้มพร้อมน้อมกินรินยาดอง
เอ้าเพื่อนผองน้องพี่รี่เข้ามา(๓๔๔)
ฟ้า (มารสุรา)
หลบหลีกลี้หนีความยามสับสน
เดินลำพังยั้งจิตคิดวกวน
งานหนักล้นบนทางที่หมางใจ(๓๔๑)
กลางดงดานละหานห้วยระทวยท้อ
วังเวงหนอรอทางสว่างใส
เสียงสัตว์ป่าร่าเริงบันเทิงไพร
ช่วยคลายให้ฤทัยผ่อนร้อนกลับเย็น(๓๔๒)
เอ้กอี้เอ้กเสกสดับประทับจิต
กระจิริดพิศเพ่งเล็งยามเห็น
เจ้าไก่ป่าน่าแลดวงแขเพ็ญ
จับมาเป็นต้มข่าน่าลิ้มลอง(๓๔๓)
ยกโถยาสุราเหล้าเอามาตั้ง
วางโต๊ะตั่งนั่งลงก๊งกินถอง
กับแกล้มพร้อมน้อมกินรินยาดอง
เอ้าเพื่อนผองน้องพี่รี่เข้ามา(๓๔๔)
ฟ้า (มารสุรา)