กานแก้ว ๓
๖. ฝนยามย่ำค่ำวันเสาร์
โปรยเม็ดเบาบางราวลมหนาวขอ
ยังไม่ทุ่มมืดทาฟ้าสีมอ
แสงไฟล้อฝนเกล็ดเป็นเม็ดพราว
ธนากรมุงานแก้ตั้งแต่บ่าย
เพิ่งจะหายคลายผ่อนก็ตอนหนาว
กับคืนฉ่ำค่ำพลบฟ้ากลบดาว
ราตรีขาวราวรินโชยกลิ่นจาง
และอย่างที่ระแวงไว้ว่าใครจ้อง
ที่โคนข่อยรอยส่อง จากแสงสาง
เห็นสาวหนึ่งผินหน้ามารางราง
ใครหนออยากตากว่าง กลางฝนพรำ
แต่สงสัยไม่ค้างเกินขวางขืน
เธอลูกยืนค้อมหัวก้มตัวต่ำ
ก้าวยาวยาวข้ามพ้นถนนดำ
มาหยุดเคียงเสาค้ำ หลังคาเครือ
เขาเพ่งมองหน้าอิ่มแล้วยิ้มให้
ตากลมใสสีครามนั้นงามเหลือ
ผมมวยมุ่นปักหมิ่นปิ่นมะเกลือ
เหมือนสาวเหนือหลุดสมัยในวังเวียง
คล้ายความจำเคลื่อนคลาดจะขาดข้าม
ว่าเธอถามถึงทางหว่างเฉวียง
จะกลับบ้านที่ร้านวัดอยู่ถัดเรียง
เลยลองเสี่ยงเข้ามาตามหาดู
(ยังมีต่อ)
พรายม่าน
สันทราย
๓๐ มกร์ ๕๕