รับน้ำบ๊วยแก้วนั้นน้องพันให้
ไม่ฝืนใจดื่มบ๊วยไม่ขวยเขิน
ที่ร้อนอกตกอับกลับเพลิดเพลิน
ได้หยอกเอินเย็นใจไม่พะวง
ได้รับแล้วลูกท้อใส่ห่อฝาก
ขนมจากช่อระกำเขานำส่ง
ไปรษณีย์แสนไวให้งวยงง
นึกว่าสงสารเราแต่เปล่าเลย
จิบบัวบกยามบ่ายคลายชอกช้ำ
ชิมระกำรสเปรี้ยวเราเคี้ยวเฉย
ขนมจาก..จากใจ กลิ่นใบเตย
น่าชมเชยในเมตตาเกื้อการุณ
หยิบผ้าขาวบนบ่าซ้ายส่งให้น้อง
ค่อยประคองมอบให้แทนใจอุ่น
เพื่อซึมซับเหงาแซมข้างแก้มคุณ
ไม่หอมกรุ่นแต่มอบให้ด้วยใจรัก
แก้ว กรุงเก่า
[/quote][/center]
[
คงคุ้นลิ้น กินทุกวัน พลันเลิศรส
บ่ายยกซด น้ำแห้ว แก้วจัดหนัก
ทุกเช้าค่ำ กล่ำกลืน สะอื้นฮัก
พิษความรัก วิ่งสู่ ประตูใจ
ต้องทำบุญ ล้างซวย ด้วยไหมพี่
แก้วมีสี ขุ่นมัว กลัวไม่ใส
นิมนต์พระ เก้ารูป ว่ากันไป
อาจช่วยได้ ไม่มี ราคีนา
หรือยังรัก น้ำบ๊วย ช่วยจัดให้
ปลูกเป็นไร่ ไว้แจก ชายแปลกหน้า
ทั้งระกำ ทั้งจาก ของฝากมา
พี่แก้วจ๋า ว่าไง รับไหมจ๊ะ
ส่วนผ้าขาว น้องนั้น ไม่ฝันถึง
พี่อย่าพึ่ง ฝากมา อย่าเชียวนะ
น้องขอตอบ ขอบคุณ ที่จุ่นจะ
อย่าพละ การส่ง จงเปลี่ยนใจ
พันทอง
[/quote]
ดื่มน้ำบ๊วยเช้าค่ำปนน้ำแห้ว
จนคุ้นลิ้นชินแล้ว..ซักแก้วไหม
ได้ฟังคำตัดรอนทอดถอนใจ
แก้วใสใสกลับสลัวหม่นมัวพลัน
นิมนต์พระทำบุญกันเช่นนั้นหรือ
ให้น้องถือทัพพีพี่ถือขัน
ได้ทำบุญร่วมชาติตักบาตรกัน
ชวนน้องพันรับพรพระชำระใจ
น้องพันชอบทำไร่ก็ไม่บอก
พี่แก้วออกจะชำนาญเรื่องหว่านไถ
ทั้งนาทุ่งนาดอนเที่ยวชอนไช
ทั้งนานอกนาในไม่เกี่ยงงอน
เพลง"ผ้าขาวบนบ่าซ้าย"พี่ไม๊ค์ร้อง
อุตส่าห์คล้องมาให้ในวันก่อน
ไม่เข้าใจเจตนาที่ว่าวอน
สลัดรักตัดรอน...พี่อ่อนใจ
แก้ว กรุงเก่า