๏ มุมวรรณศิลป์ ๏
หยุดอ่านสักนิด หยุดคิดสักหน่อย
เชิญมาพักผ่อนกับมุมวรรณศิลป์กัน
๏ โอ้งามพักตร์ผ่...องละไมประไพพริ้ม
งามเมื่อยิ้มแย้มเหมือนงามเดือนฉาย
โอ้ละหนอพี่หนาวรักมิพักคลาย
คอยเดือนฉายชมสว่างอยู่กลางทรวง
๏ จะเด็ดดาวพราวระยับประดับฟ้า
จะเก็บมาถักร้อยเป็นสร้อยสาย
อาภรณ์พรรณนั้นคือฟ้านภาพราย
ส่องประกายฉายระยับวะวับวาว
๏ "จะถักร้อยสร้อยไม้สายสวาท
ขออำนาจปราถนาอย่ารู้สิ้น
ดนตรีไพรครื้นเครงต่างเพลงพิณ
กล่อมให้ยิลและให้ย้ำคำว่ารัก"
๏ เอาเพชรศรีมณีพลอยเป็นปิ่นปัก
เอาความรักร้อยต่างสังวาลเสียง
เห่ถนอมกอดน้องประคองเคียง
ชื่นสำเนียงเสน่หามาลัยกลอน ฯ
______________
พิพัฒนชัย
๒๔ / พฤศจิกายน / ๒๕๕๔
ตัวอย่างนี้ คือกลอนสุภาพ
ถ้าผู้อ่านสังเกตดีๆจะพบว่า ผู้เขียนเขียนผิดรูปแบบฉันทลักษณ์
คือไม่ได้สัมผัสระหว่างบท และสัมผัสนอกไม่ถูกต้องเท่าใด
และเข้าใจไม่ได้ว่า ผู้เขียนนั้นประพันธ์กลอนประประเภทใดกันแน่
จะกลอนแปดก็ไม่ใช่ จะกลอนเก้าก็ไม่เชิง ดูกำกวมชี้ชัดตัดสินขาดไม่ได้
แตทว่าความหมายที่สื่อนั้นยังครบถ้วน
สัมผัสในยังคงมี จึงทำให้ผู้อ่านสามารถจับทำนองได้
และสามารถแปลเนื้อหาได้ตามคำนั้นๆ
หรือเข้าถึงอารมณ์กลอนได้ไม่ยากนัก
เช่นตัวอย่างบทสุดท้าย
๏ "เอาเพชรศรีมณีพลอยเป็นปิ่นปัก
เอาความรักร้อยต่างสังวาลเสียง
เห่ถนอมกอดน้องประคองเคียง
ชื่นสำเนียงเสน่หามาลัยกลอน ฯ"
(๙_๘_๘_๙)
ฉันทลักษณ์ คือ รูปแบบบังคับตัวบท,พยัญชนะ,รูปวรรณยุกต์
ซึ่งเป็นที่นิยมใช้และสืบต่อกันมา
การเขียนกลอนตามฉันทลักษณ์นั้นก็จะได้ จังหวะ,ทำนอง
แลดูเป็นระเบียบ ทำให้อ่านแล้วราบลื่น เสนาะหู สละสลวย
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องบังคับเรา
และต้องกำหนดให้เราเขียนอย่างนั้นตายตัว...
กาพย์,โคลง,กลอน ก็เป็นอักษรศิลป์
ศิลปะนั้นจะนี้มีกฏเกณฑ์หรือบทบังคับตายตัวไม่ได้
สัมผัสนอก สัมผัสใน หรือสัมผัสระหว่างบท ...
แม้จะเขียนได้ถูกต้องตามรูปแบบฉันทลักษณ์ที่กำหนด
แต่ถ้าสัมผัสใจไม่ได้ หรือความหมายไม่มี อ่านแล้วดูวกวนไปมา
การสื่อสารก็ย่อมผิดเพี้ยนไปจากเจตนา
เมื่อนั้น มันจะกลายเป็นเพียงแค่ เศษหมึก เศษกระดาษ ในบัดดล...
หรือถ้าเป็นคน ก็จะเป็นคนประเภทที่พูดจาโหวงเหวง ฟังไม่รู้เรื่อง หาสาระอะไรไม่ได้!!
________________
พิพัฒนชัย
๒๐ / มกราคม / ๒๕๕๕
โดย: Seal Thailand
ปล. ขอขอบคุณทุกที่มา
และกราบขอขมาถ้าไม่ควร
หยุดอ่านสักนิด หยุดคิดสักหน่อย
เชิญมาพักผ่อนกับมุมวรรณศิลป์กัน
๏ โอ้งามพักตร์ผ่...องละไมประไพพริ้ม
งามเมื่อยิ้มแย้มเหมือนงามเดือนฉาย
โอ้ละหนอพี่หนาวรักมิพักคลาย
คอยเดือนฉายชมสว่างอยู่กลางทรวง
๏ จะเด็ดดาวพราวระยับประดับฟ้า
จะเก็บมาถักร้อยเป็นสร้อยสาย
อาภรณ์พรรณนั้นคือฟ้านภาพราย
ส่องประกายฉายระยับวะวับวาว
๏ "จะถักร้อยสร้อยไม้สายสวาท
ขออำนาจปราถนาอย่ารู้สิ้น
ดนตรีไพรครื้นเครงต่างเพลงพิณ
กล่อมให้ยิลและให้ย้ำคำว่ารัก"
๏ เอาเพชรศรีมณีพลอยเป็นปิ่นปัก
เอาความรักร้อยต่างสังวาลเสียง
เห่ถนอมกอดน้องประคองเคียง
ชื่นสำเนียงเสน่หามาลัยกลอน ฯ
______________
พิพัฒนชัย
๒๔ / พฤศจิกายน / ๒๕๕๔
ตัวอย่างนี้ คือกลอนสุภาพ
ถ้าผู้อ่านสังเกตดีๆจะพบว่า ผู้เขียนเขียนผิดรูปแบบฉันทลักษณ์
คือไม่ได้สัมผัสระหว่างบท และสัมผัสนอกไม่ถูกต้องเท่าใด
และเข้าใจไม่ได้ว่า ผู้เขียนนั้นประพันธ์กลอนประประเภทใดกันแน่
จะกลอนแปดก็ไม่ใช่ จะกลอนเก้าก็ไม่เชิง ดูกำกวมชี้ชัดตัดสินขาดไม่ได้
แตทว่าความหมายที่สื่อนั้นยังครบถ้วน
สัมผัสในยังคงมี จึงทำให้ผู้อ่านสามารถจับทำนองได้
และสามารถแปลเนื้อหาได้ตามคำนั้นๆ
หรือเข้าถึงอารมณ์กลอนได้ไม่ยากนัก
เช่นตัวอย่างบทสุดท้าย
๏ "เอาเพชรศรีมณีพลอยเป็นปิ่นปัก
เอาความรักร้อยต่างสังวาลเสียง
เห่ถนอมกอดน้องประคองเคียง
ชื่นสำเนียงเสน่หามาลัยกลอน ฯ"
(๙_๘_๘_๙)
ฉันทลักษณ์ คือ รูปแบบบังคับตัวบท,พยัญชนะ,รูปวรรณยุกต์
ซึ่งเป็นที่นิยมใช้และสืบต่อกันมา
การเขียนกลอนตามฉันทลักษณ์นั้นก็จะได้ จังหวะ,ทำนอง
แลดูเป็นระเบียบ ทำให้อ่านแล้วราบลื่น เสนาะหู สละสลวย
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องบังคับเรา
และต้องกำหนดให้เราเขียนอย่างนั้นตายตัว...
กาพย์,โคลง,กลอน ก็เป็นอักษรศิลป์
ศิลปะนั้นจะนี้มีกฏเกณฑ์หรือบทบังคับตายตัวไม่ได้
สัมผัสนอก สัมผัสใน หรือสัมผัสระหว่างบท ...
แม้จะเขียนได้ถูกต้องตามรูปแบบฉันทลักษณ์ที่กำหนด
แต่ถ้าสัมผัสใจไม่ได้ หรือความหมายไม่มี อ่านแล้วดูวกวนไปมา
การสื่อสารก็ย่อมผิดเพี้ยนไปจากเจตนา
เมื่อนั้น มันจะกลายเป็นเพียงแค่ เศษหมึก เศษกระดาษ ในบัดดล...
หรือถ้าเป็นคน ก็จะเป็นคนประเภทที่พูดจาโหวงเหวง ฟังไม่รู้เรื่อง หาสาระอะไรไม่ได้!!
________________
พิพัฒนชัย
๒๐ / มกราคม / ๒๕๕๕
โดย: Seal Thailand
ปล. ขอขอบคุณทุกที่มา
และกราบขอขมาถ้าไม่ควร