..ขอบพระคุณ..ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ..
"ดาวใต้สะดือ?"
๐
หล่อนเล่าเรื่องยั่วเย้ามิเหงาปาก
ความกระดากไม่มีที่ให้เห็น
ตามประสาคนขำทำหน้าเป็น
ปล่อยน้ำลายกระเซ็นเหม็นติดตัว
ใต้สะดือเรื่องกามคือความโปรด
ออกจากโอษฐ์ทุกทีมีแต่ยั่ว
ชินจนเป็นกิจวัตรชัดเมามัว
เริงเกลือกกลั้วประจำซ้ำชำนาญ
คือดาวเด่นจรัสแสงแรงก๋ากั่น
คือความมันเคลื่อนทบกลบความด้าน
คือสะท้อนทรวงในใจนงคราญ
คือผลงานโดดเด่นเน้นอบาย
พินิจดูหรือถามความแม่ศรี
คุ้ยแคะดูไม่มีที่จะขาย
สิ่งที่ลดนั้นหรือคือยางอาย
นึกภาพชายต่อแถวในแววตา
สังคมไทยเจริญเพลินกับยุค
ทั้งเฟชบุ๊คข่าวคาวฉาวทั่วหน้า
เด็กอาจรับปมเด่นเห็นมารดา
ก็หลงพาเดินตามลามฝังใจ
ระวังตรวจสมุดพกตกใจถ้อย
ครูทยอยเขียนด่าว่าลูกได้
"เด็กชอบคุยขาดสติและวินัย-
เก่งเรื่องใต้สะดือดื้อทโมน?"..
(..เก่งเรื่องใต้สะดือ..หรือโลกีย์!!)
ระนาดเอก
วิปริตผิดทำนองของปู่ย่า
เอ่ยวาจาวางมาดฟังผาดโผน
ช่างเลี้ยวลดทดคำอย่างช่ำโชน
ทั้งห้อยโหนโยนโยกประโยคย้ำ
ก็ถ้อยทีถ้อยท่วงเป็นช่วงทอด
ฝ่ายหญิงหยอดชายหวามตามขย้ำ
เมื่อเธอร้องเขารับจับลำนำ
ต่างชื่นฉ่ำยิ้มย่องทั้งสองขบวน
เป็นคุณเห่ยเชยเปิ่นเขินเหลือหลาย... (แซมน่ะ..)
ไร้คุณชายเฝ้ารอต่อฉนวน
จะพูดจางันงกตกขบวน
เอ่ยสำนวนชาวบ้านโบราณนัก
ค่านิยมเปลี่ยนจุดสุดขยาด
คล้ายภาพวาดสื่อสังคมที่จมปลัก
เรื่องกาม,กิน,กลโกง โยงสัญญลักษณ์
หรือเราไม่ รู้จัก “ไทย” ... “ไฉนจึง??”
แซมค่ะ