สายลม : แสงดาว
….......
สายลมแหวกอากาศ…
เสียงดังประหลาดจนหวาดหวั่น
แผ่ขยายม่านฝนบนเงาจันทร์
ไปสู่นิจนิรันดร์แห่งฝันใด
เวลายังโบยบิน…
ไม่สูญสิ้นความหวังอันยิ่งใหญ่
สัมผัสความสงบแล้วจบไป
อาจจะได้พบกันใหม่ในไม่ช้า
เพราะนี่คือชีวิต…
แย้มยิ้มเยื้อนเพื่อนสนิทเลยคิดว่า
จะเห็นดาวระยับทุกสัปดาห์
ยังอุตส่าห์มองหาก่อนเข้านอน
เพียงความเงียบงัน…
เป็นเหมือนกันหรือไม่? ครั้งเก่าก่อน
อยู่อยู่ก็แข็งกระด้างอย่างร้าวรอน
ซุกตัวลงกับหมอนร้อนเหลือเกิน
ขณะช่วงฤดูหนาว…
ไม่เห็นดาวอากาศดูขาดเขิน
ไม่รู้สิ! ดาวคงได้ลงเดิน
ดาวอาจเพลินไปลับไม่กลับมา
คงเป็นอีกค่ำคืน…
รู้สึกได้ถึงผืนน้ำตาฟ้า
เป็นละอองลอยล่องตามเวลา
ผ่านระเบียงเหว่ว้าอย่างเบาบาง
ไม่เป็นไร…
เพียงรู้สึกสิ้นไร้และเปล่าว่าง
เห็นขอบฟ้าแอบมุดอยู่สุดราง
นั่น! หมอกจางกางร่ม ได้ชมแล้ว..!!
…………………
ภาพจาก oknation.net
เย็นลมหนาว ผ่าวแผ่ว แว่วไหวหวิว
ลิบลิบลิ่ว บรรเจิด พริ้งเพริศแพร้ว
โรยระยับ ขับเน้น มองเป็นแนว
หลายหลากแถว แก้วเก็จ เพชรประกาย
ยามดึกดื่น คืนค่ำ ยิ่งฉ่ำชื่น
เย็นรื่นรื่น ไอหมอก ระลอกสาย
กลบสลัว มัวหมอง ของดาวราย
เสื่อมสลาย คลายลด สิ้นงดงาม
ถึงดารา ปรากฏ สิ้นหมดสี
ดาวฤดี พลีจิตต์ มิคิดหยาม
แม้นใครอื่น หมื่นแสน แค้นประณาม
มิเลวทราม ตามหทัย เช่นใจคน.../
บูรพาท่าพระจันทร์
ลิบลิบลิ่ว บรรเจิด พริ้งเพริศแพร้ว
โรยระยับ ขับเน้น มองเป็นแนว
หลายหลากแถว แก้วเก็จ เพชรประกาย
ยามดึกดื่น คืนค่ำ ยิ่งฉ่ำชื่น
เย็นรื่นรื่น ไอหมอก ระลอกสาย
กลบสลัว มัวหมอง ของดาวราย
เสื่อมสลาย คลายลด สิ้นงดงาม
ถึงดารา ปรากฏ สิ้นหมดสี
ดาวฤดี พลีจิตต์ มิคิดหยาม
แม้นใครอื่น หมื่นแสน แค้นประณาม
มิเลวทราม ตามหทัย เช่นใจคน.../
บูรพาท่าพระจันทร์