ริมกระจกบานนั้น
..........
อยู่กับความขม และความหนาว
นั่งมองดาวทุกวัน จนฝันใฝ่
บางส่วนเริ่มชาเย็น และเป็นไป
กระจกบานใส ก็พร่ามัว
ราวกับว่าสิ้นแสง โลกแห่งนี้
เป็นห้องที่สีดำ คล้ำไปทั่ว
ทุก-ทุกช่วงขณะ จะหวาดกลัว
มันมืดมิดติดตัว อย่างงัวเงีย
เกิดคำถามทบทวน ในส่วนลึก
ไร้ที่ปรึกษากัน จนขวัญเสีย
เปิดหน้าต่างอาวรณ์ ยามอ่อนเพลีย
ไร้คำพูดนัวเนีย เงี่ยหูฟัง
มองผ่านกระจกแก้ว แล้วใจหาย
นกมากมายสยายปีก ไปอีกฝั่ง
เงียบและขรึม ซึมและเศร้า เหงาลำพัง
มากระซิบทุกครั้ง ไม่ยั้งใจ
ริมกระจกบานวาว เริ่มร้าวแล้ว
ดูสิ! ดูสิ! แก้ว ที่แววใส
ฉันนั่งมองเมื่อวาน หรือนานไป
จึงทำให้กระจก สีตกมัว..!!
..........
..........
อยู่กับความขม และความหนาว
นั่งมองดาวทุกวัน จนฝันใฝ่
บางส่วนเริ่มชาเย็น และเป็นไป
กระจกบานใส ก็พร่ามัว
ราวกับว่าสิ้นแสง โลกแห่งนี้
เป็นห้องที่สีดำ คล้ำไปทั่ว
ทุก-ทุกช่วงขณะ จะหวาดกลัว
มันมืดมิดติดตัว อย่างงัวเงีย
เกิดคำถามทบทวน ในส่วนลึก
ไร้ที่ปรึกษากัน จนขวัญเสีย
เปิดหน้าต่างอาวรณ์ ยามอ่อนเพลีย
ไร้คำพูดนัวเนีย เงี่ยหูฟัง
มองผ่านกระจกแก้ว แล้วใจหาย
นกมากมายสยายปีก ไปอีกฝั่ง
เงียบและขรึม ซึมและเศร้า เหงาลำพัง
มากระซิบทุกครั้ง ไม่ยั้งใจ
ริมกระจกบานวาว เริ่มร้าวแล้ว
ดูสิ! ดูสิ! แก้ว ที่แววใส
ฉันนั่งมองเมื่อวาน หรือนานไป
จึงทำให้กระจก สีตกมัว..!!
..........
ภู กวินท์