ริมกระจกบานร้าว
คือหยาดฝนทิ้งยวงจากดวงหน้า
ริมหน้าต่างสีฟ้า ผ้าม่านใหม่
ค่ำที่ตนสนทนาเวลาใด
ราวโมงยามย้อนวัยโลกใบเดิม
กระดิ่งเคาะระฆังฟังคล้ายว่า
มีบางสิ่งคุ้นตามาต่อเสริม
ระหว่างคืนสีดำที่ค่ำเติม
เพลงลมเริ่มรัวกลองทำนองเพลง
แนบหน้าอยู่ใกล้ชิด-กระจกร้าว
บทละครเรื่องยาวเล่าขานเปล่ง
คือชีวิตไหม้มอดกอดตัวเอง
ใต้ไฟห้องวังเวงอย่างเกรงกลัว
หลากความไม่เข้าใจในส่วนลึก
ทบรู้สึกสุมวนจนหม่นทั่ว
ระหว่างความเชื่อมั่นคือฝันมัว
มิอาจเผยออกตัวว่าหัวใจ-
อยากตัดพ้อต่อว่าให้สาสม
เก็บอารมณ์ซุกซ่อนความอ่อนไหว
เมื่อล่วงลุโมงยามความเป็นไป
หวังแม่น้ำสายใดจักไหลคืน
ไหลลงพร้อมคิดถึงซึ่งขาดช่วง
ไปแล้วจากอีกห้วงดวงใจอื่น
ขณะความบาดหมางฝังรากกลืน
พิษความเหงาตีตื้นขึ้นทบใจ
โลกใบเก่าลำพังนั่งเหว่ว้า
แอบคาดหวังคนลา จะมาใหม่
ผ่านการรอคำทักจากหนึ่งใคร
รับรู้เพียงเยื่อใยเขาไม่มี
จีบดอกฝันใส่กรอบสีขอบคล้ำ
นกปีกช้ำบินไปไม่ถึงที่
ปวงช่อรักป่นลงเป็นผงคลี
พร้อมมณีเม็ดปริ่มริมขอบตา-
ของคนนั่งหน้าแนบแอบกระจก
ลมกรูกราวฝนตก อกหวั่นว่า
จะแตกเป็นเสี่ยง-เสี่ยงเพียงฝนมา
เอื้อมมือเขียนรอยฝ้าว่าอย่าร้าว.