เมื่อก่อน...ก่อนที่ฉันยังไม่มีเขาก้าวเข้ามา...
ฉันเหงา...มีความเหงาเป็นทุนมาแต่แรกเริ่ม...
แล้วทุกอย่างก็สดขื่น...มีชีวิตมีเขาเข้ามาเติม...
เขาประเดิมด้วยความอาทร...กลัวฉันจะเหงา...
แต่เดี๋ยวนี้...ความอาทรไม่มีให้เห็น...
ฉันจะตายจะเป็น...ก็ไม่สนใจเรา...
ความอาทรนั้นไม่เหลือรอยให้เห็นเหมือนเก่า...
จะไป..เขาก็ไป...
รู้ไหม ?...ฉันไม่เหงาอีกแล้ว...เพราะฉันเก็บเขาไว้ที่หัวใจ...
เขาจึงไม่เคยห่างไปไหน...
ฉันเหงา...ฉันก็ปลุกเขามานั่งชมจันทร์ชมดาว...
ชี้ชวนให้เขาชมดาวด้วยกลอนของท่านสุนทรภู่...
"ดูโน่นแน่แม่อรุณรัสมี ตรงมือชี้ดาวเต่านั่นดาวไถ
โน่นดาวธงตรงหน้าอาชาไนย ดาวลูกไก่เคียงอยู่เป็นหมู่กัน
องค์อรุณทูลถามพระเจ้าป้า ทึ่ตรงหน้าดาวไถชื่อไรนั่น
นางบอกว่าดาวธงอยู่ตรงนั้น ที่เคียงกันเป็นระนาวชื่อดาวโลง
แม้ดาวกามาใกล้เมืองมนุษย์ จะม้วยมุดมรณาเป็นห่าโหง
ดาวดวงลำสำเภามีเสากระโดง สายระโยงระยางหางเสือยาว
นั่นแน่แม่ดูดาวจระเข้ ศีรษะเร่หกหางขึ้นกลางหาว
ดาวนิดทิศพายัพดูวับวาว เขาเรียกดาวยอดมหาจุฬามณี
โน่นดาวคันชั่งช่วงดวงสว่าง ที่พร่างพร่างพรายงามดาวหามผี"
เขานิ่ง...เงียบงัน...ไร้เสียงใดออกมา...
ฉันเข้าใจว่า...เขาคงซาบซึ้งในบทกลอนที่ฉันกล่าวให้เขาฟัง...
ฉันบอกลาความเหงา...เพราะว่าเขามิได้จากไปไหน...
เขาอยู่ในหัวใจฉันเสมอ...
เวลานี้เขายังอยู่เคียงข้างฉัน...นั่วชมดาวด้วยกัน...
ดาว อาชาไนย