มิวางใจ ในบุญ การุณย์จิตต์
ควรสนิท ชิดชั่ว ให้หัวหมุน?
น่าระคาง มิวางใจ ในเรื่องบุญ
หากไร้คุณ มากโทษ โปรดชี้แจง.../
บูรพาท่าพระจันทร์
ควรสนิท ชิดชั่ว ให้หัวหมุน?
น่าระคาง มิวางใจ ในเรื่องบุญ
หากไร้คุณ มากโทษ โปรดชี้แจง.../
บูรพาท่าพระจันทร์
ถ้าจะอธิบายด้วยร้อยกรองที่หนึ่งคำสามารถตีความได้ไพศาล
ก็เกรงว่าจะยิ่งทำให้เข้าใจความหมายต่างกันไปใหญ่
แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นบาปและบุญย่อมมีความหมายในตัวมันเอง
เนื่องจากกระทู้กลอนนี้คุณสุนทรวิทย์ตั้งไว้ว่า บาปบุญคุณโทษ
คุณงายจึงแต่งออกมาเป็นกลอนในความหมายว่า
บาปก็มีบุญ คุณก็มีโทษ
บุญของบาปก็คือ ทำให้เราเห็นว่าบุญดีอย่างไร
เพราะได้เห็นโทษของการทำบาป
เมื่อต้องไปข้องแวะกับสิ่งไม่ดี
จึงมีเครื่องคอยเตือนใจ
ส่วนคุณก็มีโทษ
คือไม่มีสิ่งใดที่มีประโยชน์อย่างเดียว
ยกตัวอย่างเช่นพลังงานนิวเคลียร์ที่ถูกยกย่องว่า
สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้มากมาย
แต่หากเกิดข้อผิดพลาดก็อาจรั่วไหลออกมาทำลายชีวิตผู้คน
หรือกากแร่ที่นำมาผลิตพลังงานนั้น
ก็ไม่สามารถกำจัดด้วยวิธีทั่วไป
มันจะยังคงส่งพลังงานอันเป็นพิษออกมาต่อเนื่อง
แม้ว่าจะหมดหน้าที่ในการผลิตพลังงานไปแล้ว
หรือทองคำที่มีประโยชน์
ได้รับการยกย่องว่ามีราคาดี
จนหลายคนซื้อมาเก็บกักตุนไว้
แทนที่จะได้อวดคนว่ามีของดี
ก็ต้องแอบซ่อนระแวดระวัง
มิฉะนั้นอาจต้องเผชิญกับโจรภัยซึ่งอาจจบที่การสูญเสียชีวิต
บทสุดท้ายคุณงายสรุปว่า
ไม่มีสิ่งใดที่มีแต่ดีหรือไม่ดีเพียงด้านเดียว
มีด้วยหรือสิ่งดีไม่มีโทษ
มีด้วยหรือสิ้นประโยชน์ไปทุกอย่าง
อย่าได้หลงเชื่อเพียงคำใครต่อใครบอกว่า
ว่าสิ่งไหนดีหรือไม่ดี
ให้เอาใจของตนไปพิจารณาก่อน
เพราะมันอาจจะไม่จริงก็ได้
ขอโทษด้วยที่กลอนของคุณงายทำให้เกิดข้อกังขา
แต่ขอย้ำอีกครั้งว่า
กลอนของคุณงายบอกว่า
บาปนั้นมีบุญ สิ่งที่มีคุณก็มีโทษ
อย่ามองอะไรเพียงด้านเดียว
ไม่ได้บอกว่า บาปเป็นสิ่งที่ดี ส่วนบุญเป็นสิ่งไม่ดี
ลองอ่านทวนกลอนคุณงายดูใหม่นะคะ