ขอบคุณภาพจาก Pixdaus ครับ
ราตรีกาลมาเยือนเดือนขึ้นแล้ว
แต่ใจแว่วคอยเคียงเพียงความฝัน
กาลสะท้อนรอฝืนทุกคืนวัน
เหมือนแรมจันทร์มืดค่ำยังพร่ำคอย
ในเคหาสถ์ประจำที่พำนัก
สร้างด้วยรักศรัทธาค่าใช้สอย
คือจุดเริ่มใช่วันอันเลื่อนลอย
คงไม่ปล่อยให้ร้างอยู่กลางเรือน
มองท้องฟ้าราตรีคืนนี้เหงา
มีแสงจันทร์จันทร์เจ้าเฝ้าเป็นเพื่อน
จะให้เป็นแบบนี้กี่แรมเดือน
จึงได้เยือนเยี่ยมย่างระหว่างใจ
ด้วยกาลผ่านนานเนิ่นจวบคืนนี้
หวังราตรีผ่านกาลจะนานไหม
ถ้าจันทร์หรี่แสงพ้อพอเข้าใจ
แต่เหมือนไร้แสงเดือนมาเยือนเรา
ใจอิดโรยโหยหานภาเปลี่ยว
จันทร์ดวงเดียวแลหานภาเปล่า
คอยครวญหาดวงแขแลเพียงเงา
สุดท้ายเฝ้าชะแง้แต่แดเดียว
รการตติ
ความระทม ตรมติด เหมือนพิษฝาก
พารักพราก จากไกล ไม่แลเหลียว
ราตรีกาล เงียบหาย ใจซีดเซียว
ต้องเปล่าเปลี่ยว อดสู่ อยู่เดียวดาย
จันทร์คู่ฟ้า ไม่เคยลับ ดับสิ้นสูญ
ความอาดูร มิกล้ำ ทำเสียหาย
เมื่อถึงคราว เด่นแรง แสงประกาย
อยู่สรวงปลาย ไร้ทุกข์ มีสุขเยือน
จันทร์เฉิดฉาย สาดส่อง ท้องเวหน
ระบายหม่น คนหงอย คอยเป็นเพื่อน
ล้างแผลใจ ทาทาบ อาบแสงเดือน
ช่วยลบเลือน ภาพเก่า รอยร้าวราน
กระซิบจันทร์ อ้อนฟ้า พาลิขิต
ช่วยพินิจ พิศผ่อง ครองสนาน
ขับวิโยค โศกแสง แฝงเงามาน
มอบสราญ รวยรื่น คืนฤดี...
"สุนันยา"