เธอคือ กุลสตรี ผู้ดีพร้อม
น่าถนอม ต้องตา กว่าหญิงไหน
ดุจมณี ศรีสรวง ดวงอำไพ
งามไฉไล เกินจะ พรรณนา
ใคร่กล่าวย้ำ คำรัก สักล้านครั้ง
ปากสิยัง เขินอาย ไร้เดียงสา
เอาแต่เลี่ยง แต่หลบ หนีสบตา
ตกประหม่า อมพะนำ กลืนน้ำลาย
มิพานพบ นางใด ในโลกหล้า
งามโสภา พริ้มเพรา เท่าโฉมฉาย
ดังติดหล่ม จมปลัก อยากทักทาย
กลับเหนียมอาย อ้ำอึ้ง กึ่งอับจน
ความอ่อนหัด เซ่อซ่า มิกล้าเอ่ย
ด้วยไม่เคย มีรัก แม้สักหน
คิดเกี้ยวพา คราใด ให้กังวล
จิตสับสน อิดเอื้อน เหมือนปึ่งชา
จีบผู้หญิง ยากเย็น ช่างเป็นทุกข์
เปลี่ยนให้บุก-น้ำลุยไฟ อาจง่ายกว่า
ขาดคู่คิด อำนวย ช่วยเยียวยา
จึงเขียนมา ถามสหาย ในบ้านกลอน
สุนทรวิทย์
น่าถนอม ต้องตา กว่าหญิงไหน
ดุจมณี ศรีสรวง ดวงอำไพ
งามไฉไล เกินจะ พรรณนา
ใคร่กล่าวย้ำ คำรัก สักล้านครั้ง
ปากสิยัง เขินอาย ไร้เดียงสา
เอาแต่เลี่ยง แต่หลบ หนีสบตา
ตกประหม่า อมพะนำ กลืนน้ำลาย
มิพานพบ นางใด ในโลกหล้า
งามโสภา พริ้มเพรา เท่าโฉมฉาย
ดังติดหล่ม จมปลัก อยากทักทาย
กลับเหนียมอาย อ้ำอึ้ง กึ่งอับจน
ความอ่อนหัด เซ่อซ่า มิกล้าเอ่ย
ด้วยไม่เคย มีรัก แม้สักหน
คิดเกี้ยวพา คราใด ให้กังวล
จิตสับสน อิดเอื้อน เหมือนปึ่งชา
จีบผู้หญิง ยากเย็น ช่างเป็นทุกข์
เปลี่ยนให้บุก-น้ำลุยไฟ อาจง่ายกว่า
ขาดคู่คิด อำนวย ช่วยเยียวยา
จึงเขียนมา ถามสหาย ในบ้านกลอน
สุนทรวิทย์
ไม่เคยบอกว่า เป็น กุลสตรี
แค่อยากเป็น คนดี ไม่กะล่อน
แค่ยามเหงา อยากมี พี่สุนทรฯ (วิทย์)
มากล่อมนอน ทุกคืน ชื่นกมล
ถ้ารักน้อง ไม่ต้อง ทำอ้ำอึ้ง
ไม่ต้องคิด คำนึง ให้สับสน
แค่จริงจัง จริงใจ ในจิตตน
อย่าหมองหม่น เลยพี่ น้องนี้รอ
เบื่อเหลือเกิน ผู้ชาย ทั้งหลายแหล่
ช้ำดวงแด บางครั้ง ต้องนั่งท้อ
เจ็บปวดแสน แน่นทรวง ห่วงดวงแด
ถ้าพี่แคร์ รีบมา นะจะคอย
พันทอง