"ในนามแห่งรัก?"
๐
ส่งอารมณ์ร่วมฝันอันวิจิตร
เนรมิตคำหวานด้านขับกล่อม
แด่สาวหนึ่งดาวกวีที่พี่ยอม
หัวใจพร้อมรับสุขหรือทุกข์ทน
พรรณนาในท่ามของความหลง
หวังอนงค์ถูกใจอย่าได้ก่น
ในนามแห่งรักแท้และจำนน
ขอกมลคนดีนี้เห็นใจ
ทั้งสำนวนซ่อนแฝงด้วยแรงภักดิ์
ที่เก็บกักท่วมท้นล้นแววใส
หากเธอขาดพลาดหวังพลั้งจากใคร
เชิญทรามวัยตักตวงล้วงไปเติม
ในขณะเธอสุขขลุกรอยยิ้ม
พี่ลอบเก็บทุกพิมพ์พริ้มเห่อเหิม
คอยเป็นเงาสัมผัสวัตรเดิมเดิม
ตั้งแต่เริ่มรู้จักจนรักเธอ
มิกล้าเปิดหัวใจในสนาม
จนเพลิงรักลุกลามสู่ความเหม่อ
เพียงใช้ลานอักษรซ่อนปรนเปรอ
ร่างเสนอสนองห้องใจตน
สำนวนนี้เล็งเป้าเธอเท่านั้น
ด้อยขบขันคลับคล้ายชายเพ้อบ่น
หวังเธออ่านต้องจิตฤทธิ์ทุรน
ทอดถนนไมตรี..ที่คนครวญ..
ระนาดเอก
ฝากถ้อยคำในนามของความฝัน
เผลอรำพันหวานหวามความหอมหวน
กลิ่นสุคนธ์มณฑาว่าอบอวล
ยังแพ้นวลหอมร่ำน้ำคำชาย
คงไม่ใช่ดาวกวีที่พี่หา
เพียงไขว่คว้าแอบมองเฝ้าปองหมาย
ในห้วงจินต์ถวิลอยู่เคียงคู่กาย
ไม่ห่างหายซึ้งสลักภักดีเธอ
พวงผกาเผยกลิ่นผึ้งบินไขว่
รักซ่อนใจมิกล้ามาเสนอ
เพราะเป็นหญิงกริ่งเกรงเพลงละเมอ
หวั่นจะเก้ออับอาย...พี่ชายเมิน
ขอเป็นเพียงแสงจันทร์วันเดือนเสี้ยว
โค้งรูปเคียววาววามท่ามเขาเขิน
แม้มิอ่าอำไพได้เพลิดเพลิน
ส่องท่ามเนินแนวร้างหว่างไพรพฤกษ์
จะเป็นแสงส่องทางกลางคลื่นเห่
ยามลมรวน..กวนเล..เร่เรือดึก
ทอแสงทองนำทางห่างห้วงลึก
ประกายพรึกสว่างในท่ามใจเธอ
ฝากสายลมห่มกมลคนช่างฝัน
สายสัมพันธ์หวานหวามยามจิตเผลอ
กลอนบทนี้ตั้งใจเขียนให้เธอ
ไม่เลิศเลอ...ของฝาก จาก”ประภาคาร”
แซมค่ะ
แซมขออนุญาต มาต่อกลอนของพี่ระนาดเอก ด้วยนะคะ...
กลอนของพี่ระนาดฯ ไพเราะ จนแซมอดไม่ไหว..
แซมบกพร่อง ได้โปรดชี้แนะด้วยค่ะ..
ขอบคุณค่ะ..
แซม